รู้กันหรือไม่ว่า? ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ของทุกปี นับตั้งแต่ปี 2001 ทางการของเมืองคาวากุจิโกะ ในประเทศญี่ปุ่น ได้กำหนดให้เป็น “วันภูเขาไฟฟูจิ” (Mount Fuji Day) เพื่อส่งเสริมให้ชาวญี่ปุ่นได้ร่วมกันระลึกถึงการมีอยู่ของภูเขาที่สูงที่สุดอันเป็นเสมือนสัญลักษณ์สำคัญของประเทศญี่ปุ่น

โดยในวันดังกล่าวจะมีการเฉลิมฉลองด้วยการจุดดอกไม้ไฟและกิจกรรมต่างๆ ซึ่งการที่เมืองคาวากุจิโกะเลือกวันนี้ขึ้นมาเป็นวันภูเขาไฟฟูจินั้นเกิดจากการเลียนเสียงในภาษาญี่ปุ่น ซึ่งวันที่ 2/23 กับพยางค์ในคำว่า “ฟูจิซัง” นั้นมีความหมายพ้องกับเลข 2 และเลข 23 ในภาษาญี่ปุ่น อีกทั้งทางเมืองคาวากุจิโกะยังบอกอีกว่าหิมะที่ปกคลุมอยู่บนภูเขาไฟฟูจินั้นจะสวยงามที่สุดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีอีกด้วย

สำหรับเรื่องราวของ “ภูเขาไฟฟูจิ” เชื่อว่ามีผู้ปีนภูเขาไฟฟูจิครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 1206 โดยนักบวชท่านหนึ่ง และในช่วงระหว่างนั้นจนถึงยุคเมจิ ภูเขาไฟฟูจิได้ชื่อว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ซึ่งห้ามผู้หญิงขึ้น ปัจจุบันภูเขาไฟฟูจิเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญและเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะเห็นได้จากในงานเขียนหรือภาพวาดต่างๆ โดยเฉพาะภาพวาดของโฮกูไซ ที่มีให้เห็นในวรรณกรรมและกาพย์กลอนที่สำคัญมากมายของญี่ปุ่น ในอดีตภูเขาไฟฟูจิเป็นที่ฝึกฝนของฐานทัพซามูไร ซึ่งในปัจจุบันฐานทัพหนึ่งของกองทหารญี่ปุ่นตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาภูเขาไฟฟูจิ

อย่างไรก็ตาม ภูเขาไฟฟูจิเป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่น ความสูง 3,776 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่ที่ชายแดนระหว่างจังหวัดชิสึโอกะและจังหวัดยามานาชิ มีรูปทรงกรวยที่สวยงามเมื่อมองจากด้านบน แต่มีการกล่าวว่าเถ้าภูเขาไฟและลาวาได้ทับถมซ้อนกันจากการปะทุซ้ำช่วงประมาณ 100,000-200,000 ปีก่อน และได้กลายเป็นรูปร่างอย่างที่เห็นในปัจจุบันเมื่อประมาณ 10,000 ปีที่แล้ว อย่างไรก็ดี ภูเขาไฟฟูจิได้เกิดการปะทุครั้งสุดท้ายในปี ค.ศ. 1707 และไม่ได้เกิดการปะทุมานานกว่า 300 ปี..

ขอบคุณภาพประกอบ : wikipedia, pixabay