“ไม่เพียงส่งมอบความสุขผ่านเสียงดนตรีและเสียงเพลงถึงผู้ที่แวะเวียนมาที่สถานีบริการน้ำมันในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่เป็นการส่งมอบน้ำใจบรรเทาความเดือดร้อนจากการว่างงานเป็นเวลานานให้กลุ่มคนดนตรี ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกลุ่มอาชีพที่เดือดร้อนจากวิกฤติโควิด-19“ …นี่เป็นหัวใจของ โครงการ “ดนตรีปันสุข” ที่แม้ว่าขณะนี้จะปิดฉากลงไปแล้ว หากแต่ผู้ชื่นชอบดนตรีและเสียงเพลงที่มีโอกาสได้ไปรับฟังระหว่างเข้าไปใช้บริการสถานีบริการน้ำมัน “บางจาก” จำนวนไม่น้อยยังรู้สึกประทับใจเสียงดนตรี เสียงเพลง จากคนดนตรีมากฝีมือมากหน้าหลายตา
“ดนตรีปันสุข” ยังมีควันหลง-มีเบื้องหลังดี ๆ
“ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” มีเสียงผู้เกี่ยวข้องมาเล่าสู่…
ทั้งนี้ ที่มาของการริเริ่ม โครงการ “ดนตรีปันสุข” ขึ้นในสถานีบริการน้ำมันนั้น ทาง กลอยตา ณ ถลาง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เล่าว่า… เริ่มจากการที่ ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทบางจากฯ ได้ไปเห็นศิลปินร้องเพลงเปิดหมวกกลางกาดแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ในช่วงกลางวัน เพื่อจะหารายได้ในช่วงที่ไม่มีงานตามร้านอาหาร-สถานบันเทิงตอนกลางคืน ซึ่งเคยทำอยู่เดิม แล้วนี่ก็กลายเป็นที่มาของการจัดโครงการดนตรีเพื่อ “ปันสุข”
“เราใช้สิ่งที่เรามี คือพื้นที่ปั๊มของเรา และจ้างศิลปินเหล่านี้มาเปิดแสดง ให้เขามั่นใจว่ามีรายได้… ต้องขอขอบคุณสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยฯ ที่ตอบรับเป็นผู้ประสานงานจัดหาศิลปินตลอดระยะเวลาโครงการ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด 4 ภาคทั่วประเทศ” …เป็นอีกส่วนจากการบอกเล่าที่มาที่ไปของโครงการดังกล่าว…
โครงการดนตรี “ปันสุข” ที่ “ลดทุกข์จากพิษโควิด”
ทั้งกับ “ผู้ที่รับชม-รับฟัง”…และกับ “ผู้เล่น-ผู้ร้อง”…
แม่เม้า–สุดา ชื่นบาน ศิลปินแห่งชาติ และในอีกสถานะคืออุปนายกฝ่ายบริหารสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เล่าไว้ว่า… สถานการณ์คนดนตรีในวิกฤติโควิดที่ผ่านมา นักร้องนักดนตรีได้รับผลกระทบกันหมด…
“เรื่องสำคัญเลยคือไม่มีงาน ขาดรายได้จุนเจือครอบครัว บ้างก็ต้องขายเครื่องดนตรี บ้างก็เอาตัวรอดด้วยการแสดงเปิดหมวก แต่ก็ได้ไม่มาก บางวันได้ไม่ถึง 200 บาท ซึ่งพอทางบางจากเปิดพื้นที่ปั๊มน้ำมัน พร้อมทั้งสนับสนุนค่าใช้จ่าย เพื่อให้เหล่าศิลปินมาร่วมสร้างสีสันแบ่งปันความสุขให้แก่ผู้ที่มาใช้บริการในปั๊มผ่านเสียงดนตรีและเสียงเพลง ทางสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยฯ ทั้งรู้สึกขอบคุณ และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ช่วยประสานในการจัดหาศิลปิน เพื่อให้น้ำใจนี้เข้าถึงคนดนตรีที่เดือดร้อนให้ได้มากที่สุด” …แม่เม้า-สุดา บอกเล่าไว้
และยังระบุไว้อีกว่า… บรรยากาศ “ดนตรีปันสุข” นั้นยิ่ง “อบอุ่น” มากขึ้นเมื่อได้รับ “น้ำใจ”“ เสริมอีกส่วนจากบรรดาศิลปินที่มีชื่อเสียง ที่มาร่วมกันส่งกำลังใจให้เพื่อนศิลปิน และร่วมสร้างความสุขในโครงการดนตรีปันสุข โดยไม่รับค่าตอบแทน อาทิ… ฉันทนา กิติยพันธ์, ชมพู ฟรุตตี้, เทวัญ ทรัพย์แสนยากร, ชรัส เฟื่องอารมย์, วิยะดา โกมารกุล ณ นคร, รวิวรรณ จินดา, มัม ลาโคนิคส์, ตุ๊กตา-จมาพร แสงทอง, รุ่งฤดี แพ่งผ่องใส, ไกรวิทย์ พุ่มสุโข, จิตติมา เจือใจ, ช. อ้น ณ บางช้าง, เล็ก Presley วง The Fox (ผู้ห้าวหาญ), กำธร ศรวิจิตร, ทิพย์วรรณ ปิ่นภิบาล, จีระศักดิ์ ปิ่นสุวรรณ, อุมาพร บัวพึ่ง, กรองทอง ทัศนพันธ์, ปุ้ม-อรวรรณ เย็นพูนสุข, แหม่ม-พัชริดา วัฒนา ฯลฯ
มี “ศิลปินดัง ๆ ระดับตำนาน” มาร่วมกันปันสุข…
โดยที่ปกติแล้ว “ยากที่จะได้เจอตัวจริง-เสียงจริง”
“ขอบคุณบางจากฯ ที่เล็งเห็นและริเริ่มโครงการดนตรีปันสุขนี้ขึ้น เพื่อสนับสนุนนักร้องนักดนตรีที่เดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด สิ่งที่มากกว่าตัวเงินคือน้ำใจ และความหวัง ที่มีคนมองเห็นความเดือดร้อนและเปิดโอกาสให้มีพื้นที่สร้างรายได้จากความสามารถ“ …ส่วนนี่เป็นเสียงที่สะท้อนไว้โดย แหม่ม-พัชริดา สมาชิกวงสาว สาว สาว อีกหนึ่งศิลปินดังที่มาร่วมโครงการ ร่วมปันสุขให้ผู้คนผ่านเสียงเพลง และร่วมให้กำลังใจเพื่อนศิลปินคนดนตรี
ทั้งนี้ ในส่วนของอุปนายกฝ่ายบริหารสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยฯ แม่เม้า-สุดา ก็ยังเผยไว้ด้วยถึงเบื้องหลังบรรยากาศ “ดนตรีปันสุข” โครงการที่สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการแสดงของคนดนตรีกว่า 400 ชีวิต โดยหลักใหญ่ใจความคือ… .นักร้องนักดนตรีหลาย ๆ คนแบ่งปันให้ฟังว่า ดนตรีปันสุขทำให้พอมีรายได้ไปจัดการเรื่องสำคัญต่าง ๆ ในชีวิต เช่น… จ่ายค่าเทอมลูก ชำระหนี้สิน จ่ายค่าเช่าที่พักที่ค้างมานาน… ในขณะเดียวกันก็ได้ทำในสิ่งที่รัก.
…และนี่ก็เป็นเครื่องยืนยันได้อีกส่วนว่า…เบื้องหลังของโครงการดนตรีเพื่อ “ปันสุข“ นี้ไม่ได้เป็นเพียงความตั้งใจส่งมอบความสุขผ่านเสียงดนตรีและเสียงเพลง ถึงผู้ที่ได้รับชม-รับฟังผลงานดนตรี-ผลงานเพลงของบรรดาศิลปิน ณ สถานีบริการน้ำมันบางจากทั้งในกรุงเทพฯ และ 4 ภาค ในช่วงเย็นวันเสาร์-วันอาทิตย์ระหว่างวันที่ 15 ม.ค.-13 มี.ค. ที่ผ่านมา
ในไทยเรานี้มี “ทุกข์พิษโควิด” เกิดทั่วทุกหัวระแหง
“ปันสุขลดทุกข์” เช่นนี้ “ช่วย ๆ กันมาก ๆ ก็ยิ่งดี”.
