เมื่อวันที่ 11 พ.ค. เวลา 10.00 น. ที่ศาลปกครอง นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายพีรพล กนกวลัย ผู้สมัคร ส.ก.เขตพญาไท พรรคก้าวไกล เข้าร่วมฟังการไต่สวนของศาลปกครองนัดแรก กรณี กกต.ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล ไม่ประชาสัมพันธ์ชื่อ-เบอร์ นายพีรพลหน้าหน่วยเลือกตั้ง ภายหลังศาลปกครองมีคำสั่งทุเลาแล้ว ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.65 โดยศาลปกครองใช้เวลาไต่สวนประมาณ 2 ชั่วโมง

นายชัยธวัชให้สัมภาษณ์ภายหลังฟังการไต่สวนของศาลปกครองว่า การไต่สวนในวันนี้ ตัวแทนของ กกต. และผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร (ผอ.กกต.กทม.) มีการอ้างว่าเหตุที่ไม่ดำเนินการใดๆ เพราะไม่มีกฎหมาย ระเบียบ แบบฟอร์ม ในการจะปฏิบัติตามคำสั่งทุเลาของศาลปกครอง และอ้างว่าตอนนี้ กกต.ได้อุทธรณ์คำสั่งทุเลาดังกล่าวไปแล้ว จึงยังไม่มีการดำเนินการใดๆ แต่ในวันนี้ศาลปกครองเห็นว่าการอ้างว่าอยู่ระหว่างอุทธรณ์นั้นไม่เป็นเหตุทำให้คำสั่งทุเลาสิ้นผลลง ดังนั้นศาลปกครองจึงมีคำสั่งชัดเจนว่าให้ ผอ.กกต.กทม. ดำเนินการตามคำสั่งทุเลาโดยทันที ด้วยการให้ออกประกาสรับสมัครนายพีรพล ให้เป็นผู้สมัคร ส.ก.เขตพญาไท และให้ติดประกาศไว้ที่หน้าหน่วยเลือกตั้งทุกหน่วยในเขตพญาไท ให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 12 พ.ค.นี้ ซึ่งเราต้องรอดูผลการดำเนินการของ กกต.ว่าจะสามารถดำเนินการได้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 12 พ.ค.นี้ได้หรือไม่ เพราะขณะนี้ใกล้วันเลือกตั้งเต็มทีแล้วก็จะส่งผลเสียหายต่อผู้สมัครของพรรคก้าวไกล

“เรื่องนี้หาก ผอ.กกต.กทม. ไม่ดำเนินการตามคำสั่งศาลในวันนี้อีก ไม่มีการติดประกาศ ไม่มีการประกาศรับนายพีรพลเป็นผู้สมัคร ส.ก.เขตพญาไท รวมถึงไม่มีการติดประกาสหน้าหน่ยเลือกตั้งภายในพรุ่งนี้ พรรคก้าวไกลจะพิจารณาการดำเนินคดีตามมาตรา 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบต่อไป เพราะวันนี้คำสั่งศาลปกครองชัดเจนมากๆ แล้วในทางปฏิบัติว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร”

นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า ส่วนคดีที่ได้ฟ้องต่อศาลปกครองทางศาลได้บอกชัดเจนว่าศาลสามารถที่จะวินิจฉัยพิพากษาได้เสร็จสิ้นก่อนวันเลือกตั้งในวันที่ 22 พ.ค. หาก กกต.ไม่ขอขยายเวลา ซึ่ง กกต.ได้อ้างว่าจำเป็นต้องขอขยายเวลาในการรวบรวมพยานหลักฐานจำนวนมากในการพิจารณาคดี ซึ่งศาลได้ขอความร่วมมือไม่อยากให้ขยายเวลาออกไปอีก เพราะเห็นว่าพยานหลักฐานควรจะมีอยู่แล้วตั้งแต่ตอนที่พิจารณาไม่รับสมัครนายพีรพล ดังนั้นไม่ควรจะต้องใช้เวลามากมาย เพื่อพิจารณาเรื่องให้จบก่อนการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามเราอยากเห็นการเลือกตั้งที่เป็นกลาง สุจริต ไม่มีพฤติการณ์ใดๆ ที่ทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะในการเลือกตั้ง ส.ก.เขตพญาไท เป็นที่ทราบกันดีว่านายพีรพลเป็นผู้สมัครที่ได้รับการยอมรับจากคนในเขตพญาไทอย่างมาก จากการทำงานในพื้นที่ 2 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นหากไม่มีการดำเนินการตามคำสั่งของศาลโดยเร็ว จะทำให้ ผอ.กกต.กทม.ถูกมองได้ว่าไม่มีความเป็นกลางทางการเมือง

ทางด้านนายพีรพล กล่าวเสริมว่า วันนี้ศาลได้ชี้ว่า กกต.จะต้องดำเนินการเสมือนหนึ่งเป็นผู้สมัครเลย เพราะศาลทุเลาไปแล้ว ก็ดำเนินการโดยวิธีปกติ ไม่จำเป็นต้องมีแบบฟอร์มหรือระเบียบกฎหมายใดๆแล้ว สิ่งที่ ผอ.กกต.กทม.ต้องปฏิบัติตาม เพราะที่ผ่านมาตนได้รับความเสียหายแล้ว หาเสียงไม่ได้ แทบจะทำอะไรไม่ได้เลย เพราะเขาอ้างว่าตนไม่ได้เป็นผู้สมัคร ตอนนี้เหลือเวลาอีกเพียง 10 กว่าวันเท่านั้น หาก กกต.ยังนิ่งเฉยอยู่ ตนจะต้องดำเนินคดีกับกกต.อีกหลายคดี ในฐานะที่เป็นผู้สมัครแล้วได้รับความเสียหาย ดังนั้นขอให้ กกต.อย่านิ่งเฉย ขอให้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครอง และขอให้ประชาชนในเขตพญาไทได้รับทราบว่าตนถือเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งแล้วตามคำสั่งของศาลปกครอง

อย่างไรก็ตามเมื่อระยะเวลาทอดเลยมาถึงขนาดนี้แล้ว ตนเชื่อว่าจะต้องมีขบวนการใดขบวนการหนึ่งที่จ้องที่จะไม่ให้ตนได้เป็นผู้สมัคร จากการที่อยู่พรรคก้าวไกล และคนที่อยู่พรรคก้าวไกลจะโดนลักษณะนี้ไปเรื่อยๆ ดังนั้นขออย่าใช้กระบวนการที่ไม่ถูกต้องมาดำเนินการกับคนที่มีความคิดเห็นทางการเมืองต่าง ต้องถูกกำจัดไป หากดำเนินการเช่นนี้เชื่อว่าหากคนที่ทำเรื่องเหล่านี้หมดอำนาจจะมีคดีติดตามตัวไปอย่างแน่นอน.