เป็นอีกหนึ่งนักแสดงมากความสามารถของวงการบันเทิงไทย ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี ก็ยังหล่อล่ำเหมือนเดิม แถมการแสดงไม่ว่าจะสวมเป็นคาแรกเตอร์ไหน ก็ตีบทบาทได้แตกกระจุย สำหรับหนุ่มเท่ เก่ง ชาติชาย ล่าสุดเขาได้มาอัพเดทชีวิตช่วงที่เข้าวงการใหม่ๆ ในรายการ Z Story Z Holiday พร้อมเล่าเหตุการณ์เฉียดตายจากอุบัติเหตุ ที่ไม่มีใครเคยรู้มาก่อน

เก่ง เผยว่า “วีรกรรมตอนเด็กไม่ธรรมดาไหม เรียกว่าเป็นเด็กไม่ค่อยเรียบร้อยมากกว่า ถ้าถามว่าเกเรไหม ก็ต้องบอกว่าเกเร แต่ในความเป็นผู้ชายที่มากกว่าเด็กโรงเรียนอื่น เพราะผมก็เลือกเข้าไปเรียนในโรงเรียนที่ค่อนข้างจะเกเรที่สุดในเมืองไทย ว่าอย่างนั้นเถอะ จุดอยากเปลี่ยนตัวเองคือ เราเสียเวลากับการเรียนมหาวิทยาลัยมา 3 ปี ตอนจบมัธยมเรายังเฮฮากับเพื่อน ไม่คิดจะเรียนหนังสือ พอจบมาเราก็ตามเพื่อนไปเรียน ทั้งๆที่ยังไม่รู้ตัวว่าเราอยากจะเรียนอะไร จนเรียนไป 3 ปี แล้วน้องสาวก็เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน ก็คือมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ทีนี้เราก็เรียนรู้จากน้องสาว จนเรารู้ตัวเองว่าเราอยากจะเรียนอะไร เราก็เลยเลือกเปลี่ยนไปเรียนคณะนิเทศศาสตร์ ซึ่งตอนนั้นคณะนี้ใน ม.กรุงเทพ สมัยนั้น ถือว่าดังที่สุด เราก็เลยพยายามที่จะตั้งใจเรียน กลับมาเรียนทดแทนเวลาที่เสียไป อดีตที่ผ่านมามันเป็นเรื่องของประสบการณ์นะครับ ตอนนั้นบางทีเราอาจจะยังคิดไม่ได้ บางทีถ้าเรากลับตัวได้ไว มันก็จะไม่เสียเวลาเหมือนผม แต่มันก็แล้วเส้นทางของแต่ละคนอีกนะครับ อย่างไรก็ตาม เราก็ต้องทำเพื่อคุณพ่อคุณแม่ เพราะการเรียนเป็นสิ่งที่สำคัญ”

“เรื่องเข้าวงการคือช่วงเด็กๆ ผมก็ไปเที่ยวในที่ที่ดาราเขาไปเที่ยวกัน แล้วเราก็อาจจะมีบุคลิกภาพที่โดดเด่น ตัวใหญ่ ก็เริ่มมีคนมาติดต่อ ตอนที่เรากำลังเรียนมหาวิทยาลัย ก็มีผู้ใหญ่เข้ามาให้นามบัตร เราก็ลองไป ทั้งๆ ที่เราไม่ชอบ และเป็นคนขี้อายมาก งานแรกที่ทำแคสโฆษณาครับ เราก็แคสไปเรื่อยๆ ซึ่งเยอะมาก พอแคสได้แล้วเราก็ไม่เล่น เราแคสเพื่อเอาชนะ เพราะตอนนั้นยุค 90 มีลูกครึ่งเยอะ หนังสร้างชื่อคือ ​2499 อันธพาลครองเมือง พี่น้อยแคสติ้ง เรียกเรามาลองแคส พอได้แล้วทุกอย่างมันลงตัว ก็เริ่มถ่าย พอถ่ายไปเรื่อยๆ พร้อมกับที่เราเรียนหนังสือไปด้วยตอนนั้น ก็สนุกมาก อย่างเพื่อนผมก็ได้มาเล่นด้วย ก็คือ ต๊อก ศุภกร แล้วด้วยความเป็นมืออาชีพของผู้กำกับและทีมงาน ทุกอย่างมันเลยออกมาดีอย่างที่เห็นครับ”

เก่ง เล่าต่อว่า “ที่บทที่ได้รับส่วนใหญ่จะเน้นไปทางพุทธคุณต่างๆ คือผมชอบเครื่องรางของขลัง เรามีความเชื่อ เพราะชีวิตเราค่อนข้างที่จะบู๊มาโดยตลอด ก็เลยต้องมีพกติดตัวไว้บ้าง ของสะสมคือเครื่องรางครับ เขาบอกว่าพระที่จะทำเครื่องรางได้ต้องเป็นพระเกจิ ที่จะมีญาณเหนือกว่าพระทั่วไป พกติดตัวไว้แล้วอุ่นใจครับ แต่ผมเคยประสบอุบัติเหตุรถล้มแล้วรอดผมขี่มอเตอร์ไซค์อยู่ ก็ใช้ชีวิตปกติ ขี่ในเส้นทางที่ขี่เป็นประจำ แต่วันนั้นเรามีความรู้สึกว่าไม่อยากไปไหน แต่มันเหมือนมีอะไรไม่รู้ดึงเราให้ออกไป ปกติจะเป็นคนที่ชัดเจนมาก วันไหนจะไม่ขี่ก็ไม่ขี่ แต่สุดท้ายวันนั้นเราก็ออกไป ก็แอบรู้สึกใจหวิวๆ ปกติไม่ค่อยได้ใส่พระ อย่างหลวงปู่ทวด คุณพ่อให้มา แต่วันนั้นเรากลัดไว้ที่คอ มีความรู้สึกว่าอยากเอาท่านไปด้วย แล้วระหว่างขี่กลับบ้าน เราก็ลืมว่าตรงนั้นเป็นโค้ง เราก็แหกโค้งออกไปเลย ทั้งๆที่ทางนั้นขี่ไปมาอยู่ 20 กว่าปี ตอนนั้นเราก็ตกจากรถแล้วกลิ้งลงบนถนน 4 รอบ หัวก็ฟาดพื้น แต่ว่าตัวอยู่ๆ ก็ตวัดขึ้นมายืน แล้วผมก็เดินเข้าข้างทางไป ตอนแรกไม่รู้ว่าเป็นอะไรหรือเปล่า แต่ตวัดขึ้นมายืน หันไปเจอประตูทางเข้าวัดพอดี โค้งนั้นคนตายเยอะครับ เพราะโค้งนั้นไม่ค่อยรับกับทัศนวิสัยในการขับรถด้วย สุดท้ายแล้วสภาพร่างกายตอนนั้น แค่ถลอกครับ”

“ที่คิดว่าการที่เรารอดมาได้ เพราะพุทธคุณ เชื่อว่ารอดเพราะหลวงปู่ทวด พอดีเรามานั่งไล่ดูรูป น้องที่อยู่ในกลุ่มฮาเล่ย์ เป็นคนถ่าย ในภาพนั้นมีจุดขาวๆ รอบตัวเรา เฉพาะเราคนเดียว คนข้างๆ ไม่มีเลย มีแบบนี้ในภาพทั้งก่อนเกิดอุบัติเหตุและหลังเกิดอุบัติเหตุ เป็นจุดขาวๆครอบตัวผมหมดเลย ทั้งๆ ที่ต่างสถานที่ ต่างเวลา พอเรามานั่งไล่ดูภาพ ก็รู้สึกตกใจเหมือนกัน แต่เราเชื่อว่าเป็นลูกแก้วของหลวงปู่ทวดที่ครอบตัวเราเอาไว้ เพราะหมวกกันน็อกของเราแตก จากการที่หัวฟาดพื้น ถุงมือรองเท้าฉีก สร้อยที่ใส่ก็กระเด็นออกไป แต่หลวงปู่ทวดที่กลัดอยู่ที่คอเสื้อ ยังอยู่”

“เรื่องหัวใจไม่ว่างมาเกือบ 20 ปีแล้วครับ พร้อมๆ กับเข้าวงการเลยครับ คบกันตั้งแต่ก่อนเข้าวงการ เจอกันเพราะแคสติ้งนั่นแหละครับ เป็นสาวนอกวงการ ที่ไม่เปิดตัว เขาไม่งอนนะ เพราะเราคบกันตั้งแต่เรียนหนังสือ เขาก็จะเข้าใจ เวลาไปไหนเราก็ไม่ได้ปิด เพียงแค่เราไม่ได้เปิด ที่คบกันนานต้องถามผู้หญิงเขาครับ เคล็ดลับอยู่ที่เขาเลย น่าจะเพราะศีลเสมอกันครับ”