เมื่อวันที่ 1 ก.ค. นายวีรพัฒน์ ภัทรนรากุล อายุ 71 ปี เจ้าของสวนทุเรียน บ้านไร่แสนรัก หมู่ 2 ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ผลผลิตทุเรียนป่าละอูในพื้นที่ 3 แปลงกว่า 50 ไร่ ในสวนตนอยู่ระหว่างการเก็บเกี่ยวเพื่อจำหน่ายหน้าสวนในราคากิโลกรัม (กก.) ละ 150 บาท ได้รับความเสียหายอย่างหนัก หลังจากเมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา มีช้างป่าละอูหรือชาวบ้านในพื้นที่ขนานนามว่า “พี่ใหญ่” อาศัยใกล้แนวเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้กลิ่นทุเรียนบุกเข้ามาเขย่าต้นรวม 10 ต้น ให้ผลทุเรียนน้ำหนักเฉลี่ยผลละ 3-4 กิโลกรัม ร่วงมากกว่า 30 ผล กินทิ้งเหลือแต่เปลือกก่อนเดินหายเข้าป่าไป รวมมูลค่าเสียหายหลายหมื่นบาท

ซึ่งก่อนหน้านั้นประมาณ 1 เดือน ก็มีช้างป่าบุกเข้ามากินทุเรียนในสวนของตนเสียหายไป 6 ต้น จนต้องเฝ้าระวังป้องกัน แต่เนื่องจากช่วงนี้ผลทุเรียนออกสู่ท้องตลาดจำนวนมาก คนงานประมาณ 5-6 คน ต้องอดหลับอดนอนเพื่อเร่งรีบตัดผลทุเรียน จนเหนื่อยเพลียไม่ทันระวังถูกช้างเข้ามากินจนได้ ซึ่งเจ้าของสวนทุกรายในบริเวณใกล้เคียงที่ช้างออกมากินทุเรียนต้องทำใจและใช้วิธีการขับไล่เดิมๆ คือใช้ลูกโป้งโยนไล่ช้าง แต่ช้างก็เคยชินไม่กลัวคน ขณะที่ผลผลิตทุเรียนป่าละอูปีนี้มีจำนวนมาก แต่ราคาลดลงจากปีที่แล้วจากสภาพเศรษฐกิจ ประชาชนไม่มีกำลังซื้อ ประกอบกับส่งออกไม่ได้ถูกกดราคา จึงต้องตัดนำมาขายเอง ซึ่งทุเรียนสวนตนนำไปจำหน่ายที่ปากน้ำปราณในราคา กก.ละ 150 บาท

ด้าน นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน กล่าวว่า เบื้องต้นได้ประสาน อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ เข้าตรวจสอบพิจารณาจ่ายค่าเยียวยาให้กับเกษตรกรชาวสวนทุเรียนที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่าแก่งกระจาน ที่บุกเข้ามาสร้างความเสียหายแล้ว.