เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เปิดเผยถึงสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จ.เลย ว่า จากการปิดแคมป์คนงานที่กรุงเทพฯ และบางส่วนได้เดินทางกลับภูมิลำเนาจึงต้องมีการมาตรการเฝ้าระวัง โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเลยมีมติ ให้ทุกอำเภอตั้งจุดตรวจจุดสกัดด่านคัดกรองผู้ที่เดินทางเข้าจังหวัด โดยเฉพาะจากแคมป์คนงานที่กลับจากกรุงเทพฯ หรือ 10 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม โดยให้พื้นที่หมู่บ้าน ตำบล ทั้ง 14 อำเภอ อาสาสมัคร 5 ทหารเสือ เข้าทำการค้นหาแรงงานที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและรับรายงานตัวเพื่อตรวจสอบประวัติเสี่ยงภายใน 3 ชม. 

กรณีแรงงานได้รับวัคซีน 2 เข็มแล้ว สามารถอยู่ในจังหวัดได้ปกติ แต่ถ้ายังไม่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม ต้องกักตัว 14 วันทันที จึงขอความร่วมมือแรงงานที่กลับภูมิลำเนาให้ความร่วมมือด้วยเพื่อความปลอดภัยของบุคคลในครอบครัวและชุมชน ถ้าไม่ปฏิบัติตามถือเป็นความผิดตามกฎหมายและขอให้ญาติพี่น้องช่วยแจ้งให้แรงงานดังกล่าวรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ควบคุมโรค โดยการกักตัวแบ่งเป็น 2 เงื่อนไขคือ ถ้าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประเมินบ้านพักอาศัยแล้วพบว่าเป็นไปตามมาตรการด้านสาธารณสุขสามารถกักตัวที่บ้านพักตนเองได้ แต่ถ้าประเมินแล้วไม่เหมาะสมจะต้องถูกกักตัว ณ สถานที่ที่แต่ละอำเภอกำหนด

ส่วนกลุ่มคนขายลอตเตอรี่ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางไปขายที่จังหวัดอื่นและกลับมาจังหวัดเลยต้องรายงานตัว และต้องได้รับการกักตัว 14 วัน เช่นเดียวกับกรณีจากแคมป์คนงาน ยกเว้นมีผลการตรวจโควิด-19 ยืนยันเป็นลบ หรือได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม จึงขอความร่วมมือให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาและช่วยกันแจ้งเจ้าหน้าที่ด้วย และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเลยได้รับการร้องขอจากอำเภอวังสะพุงให้ผู้ขายลอตเตอรี่อย่าเพิ่งเดินทางไปขายยังพื้นที่เสี่ยง 10 จังหวัด และมีมติให้ปิดตลาดนัดลอตเตอรี่เป็นระยะเวลา 14 วัน (29 มิ.ย.- 12 ก.ค.64)

ส่วนทุกโรงเรียนให้ปิดเรียนเป็นระยะเวลา 14 วัน (28 มิ.ย. – 11 ก.ค.64) โดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนแบบออนไลน์แทน เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์

โดยได้สั่งการไปยังทุกอำเภอสำรวจบุคคลที่เดินทางมาจากต่างพื้นที่และรวบรวมนำเสนอข้อมูลต่อจังหวัด เพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวนโรคต่อไป นอกจากนี้จังหวัดเลยยังมีแอปพลิเคชัน “ไทเลย” โดยมีคิวอาร์โค๊ตสำหรับการบันทึกข้อมูลของผู้ที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดเลยซึ่งจะเปิดใช้ภายในสัปดาห์นี้