จากกรณี นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ได้มีการโพสต์ภาพการจับปลานกแก้วร้อยเป็นพวง พร้อมกับโพสต์ลงสื่อโซเชียล เหตุเกิดที่บริเวณกลางทะเลเกาะพีพี ทำให้ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไม่พอใจกับภาพดังกล่าว และได้มีการสั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้หาตัวคนทำมาลงโทษตามกฎหมาย

เมื่อวันที่ 12 ส.ค. นายฑีฆาวุฒิ ศรีบุรินทร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบภาพดังกล่าว พบว่าชายหนุ่มในคลิป ยืนถือปลานกแก้ว 3 ตัว ปลาไม่ทราบชนิด 2 ตัว และใช้มีดแทงหัวปลาไหลทะเล 1 ตัว พื้นที่เกิดเหตุ อยู่บริเวณเกาะพีพีเล ใกล้กับ อ่าวมาหยา ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ 

เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการรวบรวมหลักฐานเปรียบเทียบพิกัดที่เกิดเหตุตามภาพดังกล่าว ซึ่งทราบว่าเรือที่ก่อเหตุชื่อเรือ “เอวาริน” และทราบชื่อคนขับเรือแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายและกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

สำหรับปลานกแก้ว (Parrotfish) เป็นปลาทะเลขนาดกลางชนิดหนึ่ง มีเกล็ดขนาดใหญ่ จะงอยมีปากยืดหดได้ ปากคล้ายนกแก้ว (เป็นที่มาของชื่อปลานกแก้ว) เนื่องจากปลานกแก้วมีรูปร่างลักษณะและสีสันสวยงาม จึงมีผู้นิยมจับมาดูเล่นและนำมาเป็นอาหาร ทำให้ประชากรปลานกแก้วลดลง ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศโดยรวมของทะเลบริเวณนั้น ก็จะเสียสมดุลไปอย่างมาก ปะการังตายมากขึ้น ฟื้นตัวช้า

และเมื่อเกิดการฟอกขาวเนื่องจากอุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้น ก็จะฟื้นตัวยากหรือตายไปอย่างถาวร จึงไม่สนับสนุน ไม่ซื้อ ไม่รับประทานปลานกแก้ว หากพบเห็นการจับปลานกแก้วในเขตอุทยานแห่งชาติ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีประกาศ ฉบับลงวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ