เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร พร้อมนายบุญแทน บุษราคำ, นายธนเสฏฐ์ หรือ ไพฑูรย์ แช่มเทศ และนายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ ผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรม นายพอละจี หรือ บิลลี่ รักจงเจริญ แกนนำชุมชนกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เข้าพบคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อรับทราบข้อหาเพิ่มเติม ภายหลังพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษ ส่งหนังสือแจ้งข้อหาเพิ่มเติม

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า การแจ้งข้อหาเพิ่มเติมนี้ ถือว่าครบถ้วน เพราะก่อนหน้านี้ที่แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าอำพรางนั้น ในฐานะที่ตนทำงานราชการสืบสวนสอบสวน หากไม่แจ้งข้อหา ใช้อาวุธข่มขืนใจผู้อื่นตาม ป.อาญา ม.309 ก็ถือว่าขาด จึงเป็นเรื่องปกติที่ต้องแจ้งเพิ่ม ก็ไม่รู้สึกหนักใจ ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณอธิบดีและรองอธิบดีดีเอสไอ ที่มาต้อนรับตนด้วยตัวเอง ยืนยันถึงความบริสุทธิ์ใจและพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

“ได้เปิดใจคุยกับอธิบดีและรองอธิบดีดีเอสไอแล้ว เรื่องนี้พูดกันทุกปีทุกเทศกาล เรื่องนี้ต้องใช้หลักวิทยาศาตร์ด้วย ก็เชื่อมั่นว่าเราไม่ได้ทำ พร้อมเข้าสู่ชั้นศาล ต่อไปจะได้ไม่ต้องถามว่าบิลลี่อยู่ไหน ส่วนเรื่องการต่อสู้คดีนั้น ต้องรอวันยื่นฟ้องก่อนจึงจะได้เห็นหลักฐานต่างๆ เพื่อสู้คดีต่อ ยอมรับไม่ทราบว่าเกิดเหตุเมื่อไหร่ พร้อมขอบคุณคนที่ให้กำลังใจ ตัวเองปกป้องป่า สัตว์ และแผ่นดินมาทั้งชีวิต ยึดที่ดินนับแสนไร่ ไม่มีรางวัลนำจับ ตัวเองไม่ได้ประโยชน์อะไร อยากถามกลับว่าที่ผ่านมาตัวเองทำไปเพื่ออะไร”

นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า วานนี้เพิ่งได้รับบรรจุราชการใหม่ในกรมอุทยานแห่งชาติ โดยต้องรอพิจารณาความเหมาะสมกับงานและตำแหน่งว่างอีกครั้ง ขออย่ากังวลว่า การกลับมารับราชการจะไปยุ่งเกี่ยวกับคดีหรือไปคุกคามใคร แต่ตนน้อยใจที่ถูกคุกคามจากองค์กรหนึ่ง ยืนยันว่าตัวเองไม่มีอิทธิพล ถ้าไม่มารุกป่าล่าสัตว์ก็ไม่ต้องมากลัว อายุราชการจากนี้อีก 2 ปี พร้อมถวายชีวิตกับการอนุรักษ์ป่า ซึ่งเร็วๆ นี้ จะมีกฎหมายใหม่ของ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ มาตรา 64 ที่ให้สิทธิทำกินกับราษฎรทุกฝ่าย

ด้านนายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีดีเอสไอ เผยว่า วันนี้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้เรียกนายชัยวัฒน์ กับพวก รวม 4 คน มารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ตามกฎหมายอาญา มาตรา 83, 309 ข้อหา “ร่วมกันโดยมีอาวุธข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง” ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และไม่หนักใจเพราะทำตามพยานหลักฐานอย่างตรงไปตรงมา โดยวันที่ 5 ก.ย.นี้ จะนัดส่งสำนวนพร้อมผู้ต้องหาให้อัยการสั่งฟ้องศาลและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามขั้นตอน

นายไตรยฤทธิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการที่ นายชัยวัฒน์ กับพวก กลับมารับราชการอีกครั้งนั้น จะไม่มีผลต่อการปฏิบัติงานของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษให้กดดัน เพราะในชั้นสอบสวนดำเนินการเรียบร้อยแล้ว และจะส่งให้ชั้นอัยการพิจารณาต่อไป สำหรับการที่นายชัยวัฒน์ อ้างว่าถูกคุกคามนั้น ยังไม่มีรายละเอียด

เจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการแจ้งข้อกล่าวหาและชี้แจงราว 1 ชั่วโมง เบื้องต้นทั้งนายชัยวัฒน์​และพวก ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา หลังจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษจะได้ทำการส่งเรื่องไปยังอัยการ ซึ่งได้นัดหมายในวันที่ 5 ก.ย. เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด​ ถนนรัชดาภิเษก​ ต่อไป