เมื่อวันที่ 18 ก.ย. มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Somjai Janmar โพสต์คลิปเตือนภัย ลูกค้าหญิงสั่งซื้อของที่ร้านก่อนจะรับเงินทอนแล้วอ้างแม่ค้าทอนเงินไม่ครบ พร้อมระบุข้อความว่า “เตือนภัย เตือนภัยคนในหมู่บ้านบัวทองธานีค่ะ ลักษณะลูกค้าเป็นผู้หญิงผมยาวใส่เสื้อสีเหลืองกางเกงขายาวสีดำรองเท้าแตะสีขาวสะพายกระเป๋าผ้าสีออกน้ำตาลออกเทาๆ มาซื้อของที่ร้านใจมาลัย จำนวน 50 บาท โดยนำแบงก์ 1,000 บาทมาจ่าย ทางแม่ค้าได้ทอนเงินให้ 950 บาท โดยมีแบงก์ 500 1 ใบ แบงก์ 100 4 ใบ และแบงก์ 50 1 ใบ ยื่นให้ลูกค้าเสร็จ ลูกค้าหันหลังเอาแบงก์ 500 เหน็บที่กระเป๋ากางเกงข้างขวา แล้วหันมาบอกแม่ค้าว่าทอนเงินขาด 500 บาท ฝากเตือนภัยค่ะมิจฉาชีพเดี๋ยวนี้หากินกันง่ายแบบนี้ระวังกันด้วยนะคะ”

ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุร้านใจมาลัย ภายในหมู่บ้านบัวทองธานี ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี สอบถาม น.ส.สมใจ จันทร์มา อายุ 43 ปี เจ้าของร้านผู้โพสต์เฟซบุ๊ก กล่าวว่า เวลาประมาณ 10.24 น. ของวันนี้ มีลูกค้าหญิงอายุประมาณ 30-40 ปี เดินเข้ามาสั่งทองคำเปลว 5 แผ่น ราคาแผ่นละ 10 บาท และจ่ายเงินด้วยแบงก์พัน ตนก็หยิบเงินทอนด้วยแบงก์ 500 จำนวน 1 ใบ แบงก์ 100 จำนวน 5 ใบ ออกมาจากกระเป๋า และยื่นให้ลูกสะใภ้นับ ลูกสะใภ้ก็ดึงเงินแบงก์ 100 ออกใบนึง และไปหยิบแบงก์ 50 จำนวน 1 ใบ รวมเป็น 950 บาท ยื่นทอนลูกค้าไป

หลังจากนั้นลูกค้าหันหลังไปสักพักและหันกลับมายื่นเงินให้บอกมีแค่แบงก์ 50 กับแบงก์ 100 ส่วนแบงก์ 500 ไม่มี ตนก็งงว่าจะไม่มีได้ยังไง นับกัน 2 คน เขาก็ยืนยันว่าไม่มี และให้ตนรื้อกระเป๋า ตนเลยบอกว่าไม่เป็นไรเพราะที่ร้านมีกล้องวงจรปิด จากนั้นลูกค้าก็มีท่าทีร้อนรนมาก เขาคงไม่คิดว่าที่ร้านมีกล้องวงจรปิด พยายามจะหาทางออกไปจากร้านมีการพูดคุยกันสักพักทางลูกค้าก็บอกว่าไม่เอาเงินแล้วและไม่เอาทองคำเปลวที่สั่งไว้ 5 แผ่น ราคา 50 บาท แต่ตนบอกว่าไม่ได้เพราะตนทอนเงินไปแล้ว ตอนจึงบอกกับลูกค้ารายนี้ว่า ช่วงนี้หาเงินยากลำบากอยู่แล้ว จะมาทำแบบนี้ทำไม เขาก็พยายามจะออกจากร้าน ตนเลยบอกว่าให้ไปโรงพักกันแต่ลูกค้ารายนี้ไม่ไปแล้วเดินออกจากร้านหลบหนีไป ซึ่งถือว่าโชคดีเพราะตนก็ไหวตัวทันจึงไม่ได้ให้เงินทอนเพิ่มไป จึงอยากเตือนภัยกับพ่อค้าแม่ค้าให้ระวังมากขึ้น

นางสาวภัทราพร ยอดนิล อายุ 24 ปี ลูกสะใภ้เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า หลังจากที่ลูกค้าคนดังกล่าวกลับไปตนจึงเปิดดูกล้องวงจรปิดพบว่า ทางเรายื่นเงินให้แล้วและเห็นว่าลูกค้ารายนี้เอาเงินเหน็บซ่อนไว้ตรงเอว และคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาทำเป็นโทรคุยกับคนอื่น จากที่เห็นเขาน่าจะอายุประมาณ 30 กว่าๆ จึงอยากเตือนพ่อค้าแม่ค้าว่าเดี๋ยวนี้มิจฉาชีพมันเยอะ นับให้ดีก่อนจะตกเป็นเหยื่อของเขา เดี๋ยวนี้โควิดก็มาขายของก็เงียบไม่ดี ขนาดวันพระยังได้นิดหน่อย ไม่ได้ขายดีเหมือนเมื่อก่อน แถวนี้ก็โดนกันบ่อย ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก คนในหมู่บ้านกันเองก็มี เห็นหน้ากันบ่อยก็ทำ แต่คิดว่าเล็กน้อยเลยไม่ได้อะไร ทางเราก็ไม่ได้เสียรู้ ก็ไหวตัวทันอยู่ อยากให้พ่อค้าแม่ค้าระมัดระวังมากขึ้น