ความคืบหน้าคดี FOREX-3D ฝั่งผู้ออกนโยบายควบคุมกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อย่างธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวแล้ว โดยได้ออกมาชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับการชักชวนให้ซื้อขายเงินตราต่างประเทศเพื่อการลงทุนหรือเก็งกำไรในลักษณะการเทรด FOREX และเปิดข้อกฎหมายว่ามีอะไรบ้างที่เกี่ยวข้อง

วันที่ 19 ก.ย. นางอลิศรา มหาสันทนะ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ชี้แจงเกี่ยวกับข่าวที่มีประชาชนตกเป็นเหยื่อของการถูกหลอกลวงให้ไปลงทุนซื้อขายเงินตราต่างประเทศ หรือเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยน (FOREX) โดยอ้างว่าจะให้ผลตอบแทนสูง แต่ไม่มีการนำเงินไปลงทุนหรือทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศจริง และมีลักษณะคล้ายแชร์ลูกโซ่ ซึ่งสุดท้ายอาจไม่ได้รับเงินคืน ดังนี้

1.ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน ประชาชนจะต้องทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศกับผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเท่านั้น และปัจจุบันยังไม่เคยให้ใบอนุญาตแก่บุคคลทั่วไป ในการซื้อขายเงินตราต่างประเทศเพื่อการลงทุนหรือเก็งกำไรในลักษณะการเทรด FOREX บนแพลตฟอร์ม หรือเว็บไซต์ (พ.ร.บ.ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน พุทธศักราช 2485 และที่แก้ไขเพิ่มเติม)

2.การประกอบธุรกิจหรือมีส่วนร่วมกับธุรกรรม FOREX ในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันไม่ได้รับอนุญาต เช่น การให้บริการรับ-ส่งเงินเพื่อชำระธุรกรรม FOREX ทั้งในและต่างประเทศ มีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน

3.บุคคลซึ่งไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจเงินตราต่างประเทศ แต่ได้โฆษณาหรือเชิญชวนให้ประชาชนเข้ามาซื้อขายเงินตราต่างประเทศ เก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยน หรือเทรด FOREX จะมีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน (พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และที่แก้ไขเพิ่มเติม)

นอกจากนี้ ในกรณี FOREX 3D จากข้อมูลที่กรมสอบสวนคดีพิเศษเปิดเผย สามารถใช้ข้อกฎหมายที่มีอยู่ในการแจ้งข้อกล่าวหาแก่บุคคลที่เกี่ยวข้องได้ ดังนี้

1) ร่วมกันกระทำความผิดฐานกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

2) ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา

3) ร่วมกันนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งก่อความเสียหายให้แก่ประชาชนตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

“โดยในกรณีนี้ แม้ไม่มีข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ธปท. แต่ ธปท. ได้ร่วมมือในการให้ข้อมูลที่อยู่ในความรับผิดชอบ ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสอบถามมาอย่างเต็มที่”

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ธปท. ได้ออกข่าวเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอย่าหลงเชื่อการชักชวนให้ลงทุนซื้อขายเงินตราต่างประเทศ หรือเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยนอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด เพื่อป้องกันมิให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวง

อย่างไรก็ตามหากมีข้อสงสัยที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศ ประชาชนสามารถสอบถามฝ่ายนโยบายและกำกับการแลกเปลี่ยนเงิน ธปท. โทร. 0-2356 7799 หรือ ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธปท. โทร. 1213 หรือตรวจสอบรายชื่อผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทยได้ที่ BOT License Check เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง