เมื่อวันที่ 20 ก.ย. น.ส.ปวีณา (แม่น้องโชค) นางนันท์ภัส (ยายเล็ก) และ น.ส.วรรณพร (น้าน้องโชค) พร้อมด้วย นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้ง ประธานชมรมทนายความจิตอาสา เดินทางไปที่ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เพื่อเข้าขอดูคลิปจากกล้องวงจรปิดจากที่โรงเรียน ตามที่ได้นัดหมายกับผู้การและผู้กำกับ เนื่องจากห้วงเวลาที่หายไป 1 ชั่วโมง 30 นาที เป็นช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุ ซึ่งทางญาติและทนายยังติดใจสงสัยว่า ห้วงเวลาดังกล่าวหายไปไหน

น.ส.ปวีณา กล่าวว่า ตนยังติดใจเหมือนเดิมเพราะในสิ่งที่คิดมันน่าจะถูกบ้าง ยิ่งเห็นคลิปยิ่งมีข้อสงสัยมาก พอตนถามเขาก็เลี่ยงตอบ เข้าใจว่ายังยึดคำให้การผู้ก่อเหตุ สิ่งแวดล้อมในหลักฐาน แต่ผลที่ยังไม่ออกมาก็บ่งชี้ได้ชัดเจนที่สุด ตนเลยอยากให้ทางนิติวิทยาศาสตร์เข้ามาจำลองด้วย ตอบได้ไม่เต็มปากหรอกว่าพอใจหรือไม่ ก็ให้เขาชี้แจงไป เขามีสิทธิที่จะชี้แจงให้หายข้องใจ เรามีหน้าที่ถาม เขามีหน้าที่ตอบ ตัวครูเองจะอธิบายในส่วนของเด็กมากกว่า ไม่ได้อธิบายละเอียดมาก ก็ไม่รู้เพราะบางอย่างในส่วนของเรื่องเด็กมีปัญหากันหรือไม่ ครูก็ไม่สามารถบอกได้ทั้งหมด

น.ส.ปวีณา กล่าวว่า แต่ถามว่าเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันมั้ย คงไม่น่าจะใช่ ตอนที่ไปขอขมานัดแต่เช้า แต่ก็มาเย็น จากนั้นไม่ค่อยได้ติดต่อมา มีแค่ถามว่าน้องโชคจะเผาวันไหน จะเผามั้ย และมีคนแชตมาถามบอกเป็นเพื่อน คือขอเลยถ้าใครจะมาป่วน ตนไม่ได้กลัว แต่น้องจะยังไม่เผาจนกว่าจะได้รับความจริง ได้รับความยุติธรรม ตนสบายใจขึ้นนิดนึงแต่ก็ลูกเราทั้งคน เสียใจอยู่แต่ไม่อยากร้องไห้ อยากหาความจริงให้ลูก ถ้ามัวแต่ร้องไห้ทุกอย่างที่ทำไปอาจจะเสียเปล่า อยากจะฝากถึงโรงเรียนหลายๆ ที่ ส่วนของเด็กมีช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ คิดยังไง ห้าวไม่ห้าว กร่างไม่กร่าง แต่ให้ดูนิดนึงว่าพฤติกรรมเป็นยังไง เพราะครูอยู่ใกล้ชิดที่สุด อยากให้ตรวจเข้มดีกว่ามาสูญเสียไปเคสนึงแล้วเงียบหายไป จนมาเคสของลูกตน ต้องสูญเสียเท่าไหร่ถึงพอใจ พอก่อเหตุก็อ้างเป็นเยาวชน ซึ่งวันนี้ตำรวจได้นัดมาดูกล้องวงจรปิดหน้าโรงเรียน และในโรงเรียน

ด้านทนายโป้ง กล่าวว่า วันที่ 21 ส.ค. เราจะไปกระทรวงยุติธรรม ไปยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม อาจจะผ่านทางท่านเลขาฯ เดี๋ยวจะนัดหมายอีกที เมื่อคราวที่แล้วเราขอดูคลิปแต่เช้า จนหลังเกิดเหตุเขาให้เพื่อนเอาไปทิ้งน้ำ วันนี้เรากลับมาพบว่าคลิปมันมีเวลาหายไป 1 ชั่วโมงครึ่ง คลิปไม่น่าหาย เป็นช่วงก่อนเข้าเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ สิ่งที่ตำรวจมาให้ดูวันนี้ เหมือนให้มาดูหนังที่สร้าง คลิปยาวแต่ตัดต่อมา คิดว่าคงไม่ได้เจตนาจะทำให้คลิปหายไปบางช่วง คราวหน้าทางผู้กำกับบอกจะรวบรวมมาให้ครบถ้วน

“สิ่งที่ผิดปกติคือ เด็กที่ก่อเหตุตอนพักกลางวันใส่เสื้อกันหนาว พอเข้ามาเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ถอดเสื้อกันหนาวเดินขึ้นมากับมือถืออะไรอยู่ แล้วเดินเข้าไปในห้องช่วงแค่ 6 วินาที ก็มีเสียงปืนลั่น วิ่งออกมาแล้วเข้าไป ก่อนจะเข้าไปในห้องก็ดูมีพิรุธ แต่ช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุคลิปหายไปไหน ฝากย้ำอีกทีถึง ผอ.โรงเรียน ควรให้คลิปมาให้หมด ใครที่ตัดคลิปให้คลิปมาไม่ครบ แต่ก็ดีที่วันนี้ให้ความร่วมมืออย่างดี จุดสำคัญอยู่ที่ชั่วโมงนั้น ตอนพักเที่ยงน้องโชคเองทำท่าหยอกล้อกับคู่กรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจก็คิดว่าเป็นการหยอกล้อกัน แต่คู่กรณีลักษณะการเดินเข้าไปในห้อง มีการถือบางอย่างคงเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากปืน ส่วนการลั่นไกปืนต้องไปดูอีกที รอคลิปที่หายไป 1 ชั่วโมงครึ่ง จะไขปริศนาทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้น” ทนายโป้ง กล่าว

ทนายโป้ง กล่าวว่า วันนี้ตนชี้ให้ตำรวจเห็นว่าน้องที่ก่อเหตุเดินเข้าไปในห้อง มันไม่น่าเกิดจากการปืนลั่น ลักษณะกระสุนเหมือนการเหนี่ยวไกมั้ย เขม่าดินปืนพบในเสื้อกันหนาวมั้ย มันเป็นตัวชี้ชัดเลย อยู่ที่พิสูจน์หลักฐานและคุณหมอที่มาชันสูตรพลิกศพแรกๆ เลย เนื่องจากวัตถุพยานมีการเคลื่อนย้าย หลักฐานอาจจะไม่ค่อยสมบูรณ์ นิติเวชคงมีข้อมูลอยู่ รอยตรงหางตาน่าจะมีรอยเขม่า คุณครูคงอยู่ในสภาวะเสียใจกับเหตุการณ์เลยตอบคำถามตนไม่ได้ ถามว่าเห็นน้องโชคนั่งตรงไหน ผู้ก่อเหตุใส่เสื้อกันหนาวเข้ามามั้ย ซึ่งตอบตนได้ไม่ครบถ้วน อยากให้เอาความจริงมาพูด ดังนั้นเมื่อสมมุติฐานมันถูกเปลี่ยน ต้องรอ 3 ฝ่ายคือ พิสูจน์หลักฐาน นิติเวช และหมอที่ชันสูตรพลิกศพ เพื่อมาประกอบกับชั่วโมงในคลิปที่หายไป จะเป็นคำตอบที่ชัดเจน ทันทีที่เจอ ตนจะเข้ามาดู ถามคุณแม่แล้วต้องการให้มีหน่วยงานเข้ามาร่วมตรวจสอบด้วยในคดีนี้ ทำแผนที่เกิดเหตุ จำลองเหตุการณ์ที่เกิดเหตุ วิถีกระสุนไปยังไง หมอนิติเวชจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์จะมาช่วยไขคำตอบ ใครกันแน่ที่จะพิสูจน์ได้ดีสุด

พ.ต.อ.ถาวร อดุลย์วิทย์ รองผบก.ภ.จว.นนทบุรี กล่าวว่า วันนี้ได้นัดญาติ ของผู้เสียชีวิตและทนายมาพูดคุย ซึ่งทางตำรวจทำงานเต็มที่ตรวจพยานหลักฐาน เพียงแต่การติดต่อสื่อสารกับทางตำรวจอาจจะคลาดเคลื่อน ทางญาติมีสิทธิสงสัยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น วันนี้ได้คุยกันแล้วทำความเข้าใจกัน รอหลักฐานจากนิติวิทยาศาสตร์ที่ส่งมาวิเคราะห์ได้ ส่วน 1 ชั่วโมงครึ่งที่หายไป ไม่ได้ตกหล่น เก็บมาแล้ว ทางผู้เสียหายสงสัยว่าหายไปไหน แต่ทางผู้กำกับมองว่า เอาที่สำคัญมาดูเดี๋ยวทางตนจะไปเก็บมาให้ ส่วนครอบครัวที่ติดใจเรื่องเขม่าดินปืน ทางนิติวิทยาศาสตร์ และทางพิสูจน์หลักฐานนนทบุรี ไม่มีการตรวจครบทุกประเด็น ทางผู้กำกับเป็นคนประสานงานเอง ตอนนี้คงต้องรอพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และหลักฐานเพิ่มเติม พยายามให้ความจริงปรากฏ เรื่องที่แม่หรือทนายสงสัย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำให้ทุกประเด็น อาจจะต้องสอบพยานแวดล้อมอีกสักหน่อย คดีนี้ไม่กดดันอาจจะเป็นการสื่อสารกันน้อย ระหว่างตำรวจกับทางญาติ