กล้องวงจรปิดโรงจอดรถแห่งหนึ่งในซอยมังกร-นาคดี อ.เมือง จ.สมุทรปราการ บันทึกภาพเหตุการณ์รถตู้อาสาสมัครมูลนิธิแห่งหนึ่งยี่ห้อ โตโยต้า ทะเบียน กต 4599 พะเยา ที่จอดอยู่ในซองจอดรถตามปกติ แล้วอยู่ๆได้ค่อยๆ เคลื่อนตัวไปข้างหน้าชนรถโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เทา ทะเบียน กจ 6687 ยะลา ที่จอดอยู่ในช่องจอดฝ่างตรงข้างจนดันถอยข้ามปูนกั้นล้อไปในพงหญ้าไปทั้งคัน สร้างความฮือฮา เหตุเกิดเมื่อช่วงสายๆวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งบนถนนศรีนครินทร์ จุดอาสาสมัครร่วมกตัญญูร่วมตัวกันเพื่อตรวจสอบ พบนายภาคภูมิ ปรีเลิศ อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เจ้าของรถตู้คันดังกล่าว เบื้องต้นเล่าว่า เมื่อวันเกิดเหตุออกเวรตามปกติ แล้วไปหาของกินก่อนกลับบ้าน โดยเอาออมบุญ (รถตู้คันดังกล่าว) เข้าไปจอดที่ร้านจอดรถประมาณตี 1 ตามปกติ แล้วเปลี่ยนรถขับกลับบ้าน พอเช้าก็ออกไปทำธุระ น้องที่ออกเวรด้วยกันได้โทรศัพท์มาบอกว่าลืมแก้วน้ำวางไว้หลังรถกลัวว่าน้ำจะหกก็เลยเข้าไปทำความสะอาดรถ พอไปถึงหน้าโรงจอดรถก็ไม่เห็นรถจอดอยู่ในที่จอดเลยไขประตูรั่วเข้าไป เห็นคนยืนมุงดูรถตนที่พุ่งไปชนรถอีกคันที่จอดอยู่ตรงข้ามกัน

นายภาคภูมิ เผยอีกว่า งงว่าไปได้ยังไง ซึ่งจำได้ว่าใส่เกียร์ ดึงเบรกมือไว้ และประตูทุกบานก็ล็อกหมดไม่มีใครเข้าไปได้แน่นอน เลยลองเปิดเครื่องดูก็พบว่าเครื่องยังเย็นอยู่ ทางเจ้าของโรงจอดรถก็ได้โทรตามเจ้าของรถคู่กรณีให้เข้ามาดู ซึ่งรถคู่กรณีเป็นรถเกียร์ธรรมดาก็ดึงเบรกมือไว้เหมือนกัน ทุกคนตรงนั้นก็เลยงงกันหมดว่ามันดันไปได้ยังไง เพราะถ้าแค่รถไหลมันไม่น่าจะดันรถที่ใส่เกียร์ไว้ไปได้ขนาดนั้น อีกทั้งพื้นตรงโรงจอดรถก็เป็นพื้นราบไม่มีลาดเอียงทั้งสิ้น ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังหาคำตอบไม่ได้ ยื่นยันว่าดึงเบรกมือ ก็ใส่เกียร์ไว้ตามปกติ เพราะกลัวรถไหลเป็นที่สุด และจากที่ได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดก็ไม่พบใครเดินเข้าไปใกล้รถเลย เพราะโรงจอดรถนั้นถ้าใครจะเข้าไปได้ต้องมีกุญแจรั่วจะมีแค่คนที่เช่าที่จอดรถเท่านั้นที่จะมีกุญแจ

นายภาคภูมิ เล่าว่า ซื้อรถคันนี้มาเกือบปีแล้ว เดินทีเป็นรถของโรงพยาบาล ทะเบียนรถก็เป็นป้ายทะเบียนรถพยาบาล ก็ซื้อมาเพื่อทำเป็นรถอาสาสมัครวิ่งในพื้นที่ ส่วนเรื่องลี้ลับหรือเรื่องเหนือธรรมชาติก็ไม่เชื่อเสียทีเดียว แล้วก็ไม่ได้ลบหลู่ แต่ก็มีหลายๆครั้งที่ออกเคสแล้วแคล้วคลาดภัยอุบัติเหตุมาได้ ตนคิดว่าไม่ว่าจะเป็นทางด้านปู่เปี่ยมที่ตนนับถืออยู่ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่กราบไหว้ในรถก็น่าจะมีอยู่ที่ปกป้องตน แต่ก็ยังงงว่าถ้าปกป้องตนแล้วไม่รู้ว่ามาดันรถตนทำไม สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้รู้สึก ตกใจ แล้วก็งงมาก ว่ารถไปได้ยังไง ณ ปัจจุบันยังหาคำตอบอยู่ว่ารถมันไปได้ยังไง แต่อย่างไรก็ตามยังคงใช้อยู่ จะไม่ขาย แต่ตอนนี้ไม่ได้เอาออกมาขับ ใช้รถอีกคันมาแทนก่อน เพราะยังหวั่นๆ ว่าจะเป็นอะไรหรือป่าวไม่กล้าขับ