เมื่อวันที่ 26 ก.ย. ที่ วัดปอาศิราวาสเกาะเกิ้ง หรือที่เรียกกันว่า วัดเกาะเกิ้ง ต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม แหล่งท่องเที่ยวอันซีนของมหาสารคาม มีสะพานไม้ข้ามแม่น่ำชีความยาว 145 เมตรนั้น ล่าสุดจากสถานการณ์ฝนตกหนักทำให้ สมาคมวิสุทโธกุศลสงเคราะห์ อ.โกสุมพิสัย หน่วยกู้ภัยศรีโสภณ และกู้ภัยประจิม จุดวาปีปทุม ช่วยกันเร่งขนพระพุทธรูปขึ้นที่สูงอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งช่วยกันทำสะพานไม้ชั่วคราวเพื่อให้พระ เณร เดินเข้า-ออกได้อย่างสะดวก เพื่อเตรียมพร้อมรับมือพายุโนรู ซึ่งมีแนวโน้มจะเข้าถล่มภาคอีสานในวันที่ 27 ก.ย.นี้ รวมถึงปริมาณน้ำในแม่น้ำชีเริ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง น้ำได้ท่วมพื้นที่ภายในวัดเกือบทั้งหมด ระดับน้ำสูง 50-100 เซนติเมตร โดยก่อนหน้านี้ได้ขนของบางส่วน ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูป ผ้าไตรจีวร ธูปเทียน เชิงเทียน พาน ตาลปัตร เครื่องอัฐบริขาร ไปไว้บนกุฏิ 2 ชั้น ส่วนโต๊ะ เก้าอี้ ฆ้อง โต๊ะหมู่บูชา เสื่อ นำไปไว้กลางสะพาน เพื่อให้พุทธสาสนิกชนมาทำบุญในวันสำคัญทางศาสนาพระ เณรปฏิบัติศาสนกิจของสงฆ์ที่บริเวณกลางสะพาน พระบางรูปต้องย้ายสิ่งของมาจำวัดที่แพข้างสะพานชั่วคราวก่อน

พระอาจารย์กมล อัตฺตธัมโม เจ้าอาวาสวัดอาศิราวาสเกาะเกิ้ง กล่าวว่า ภายหลังจากฝนตกต่อเนื่องในช่วงเดือนที่ผ่าน ทำให้แม่น้ำชีมีปริมาณสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกวัน นอกจากนี้เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ได้เพิ่มการระบายน้ำวันละ 25 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อ โดยน้ำท่วมศาลาการเปรียญสูง 50 เซนติเมตร สาวพื้นที่ลุ่มต่ำน้ำลึก 1 เมตร และเพิ่มขึ้นต่อเนื่องวันละ 10 เซนติเมตรมา 2 อาทิตย์ พระ เณรบางรูปต้องไปจำวัดบนแพให้อาหารปลา อีกส่วนหนึ่งจำวัดในกฏิที่น้ำยั่งท่วมไม่ถึง โดยในวัดมีพระ เณรที่จำพรรษา 7 องค์

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า พายุโนรูกำลังเคลื่อนตัวมาทางภาคอีสาน ในวันที่ 29 ก.ย.นี้ เกรงว่าน้ำจะท่วมใหญ่เหมือนปี 2564 ระดับน้ำสูงเกือบ 2 เมตร ในปีนั้นน้ำท่วมนานเกือบ 2 เดือน จึงได้ขอแรงหน่วยกู้ภัยมาช่วยขนย้ายพระพุทธรูปขึ้นที่สูง และช่วยกันทำสะพานไม้ชั่วคราว เพื่อให้พระสงฆ์เดินข้ามไปมาได้อย่างสะดวก ที่ผ่านมาพระสงฆ์ต้องเดินลุยน้ำออกมาปฏิบัติกิจทางสงฆ์

ขณะที่ เขื่อนวังยาง ปักธงแดงเพื่อเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังเพราะน้ำระดับเก็บกัก 2.85 เมตรแล้ว ให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝังแม่น้ำชีติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ให้เก็บสิ่งของไว้บนที่สูง โดยจากการรายงานสถานการณ์น้ำล่าสุด ระดับน้ำวัดที่เขื่อนมหาสารคาม มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 976.10 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือ 84.34 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน มีปริมาณน้ำหน้าเขื่อน 40.550 ล้านลูกบาศก์เมตรคิดเป็น 168.96% ทำการเปิดประตูระบายน้ำทั้ง 6 บานรวม 54 เมตรระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ 16 ซม. สูงกว่าระดับตลิ่ง 61 เซนติเมตร โดยระดับน้ำยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำสูงสุดในปี 2564 อยู่ที่ 1.09 เมตร

ส่วนที่ จ.หนองคาย มีฝนตกลงมาต่อเนื่อง ทำให้มีปริมาณน้ำสะสมมากขึ้น ระดับน้ำโขงเพิ่มปริมาณอยู่ที่ 7.70 เมตร แต่ยังอยู่ต่ำกว่าตลิ่ง 4.50 เมตร ปริมาณน้ำฝนวัดได้ 35.0 มม.

ขณะเดียวกันโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ได้เปิดประตูระบายน้ำทั้ง 4 บาน เร่งการระบายน้ำจากลำห้วยโมง ซึ่งเป็นลำห้วยสาขาของแม่น้ำโขง ลงสู่แม่น้ำโขง เพื่อเตรียมรับพายุโนรู ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยารายงานลักษณะอากาศทั่วไปว่า ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มในระยะนี้ ซึ่งคาดว่า พายุใต้ฝุ่นโนรู บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง จะเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนกลางในวันที่ 28 ก.ย. ซึ่งจะมีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 27-29 ก.ย.นี้.