เมื่อวันที่ 10 ต.ค. มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก @ต้นหอม ช๊อป ได้เผยคลิปที่ตนไปปล่อยปลาที่วัดแห่งหนึ่ง แล้วเห็นความทรมานของปลา ที่ปล่อยลงไป จึงเกิดฉุกคิดขึ้นได้ จึงโพสต์ข้อความเพื่อเป็นการย้ำเตือนให้กับผู้ที่ชอบทำบุญเหมือนกัน โดยระบุว่า ‘ฝากถึงผู้ใจบุญ ชอบปล่อยปลา สัตว์น้ำ ณ วัดหาดใหญ่ใน ท่านปล่อยปลาท่านจะได้บุญหรือบาปนะท่านดูนะ พื้นที่ขอบปูนของท่าน้ำและแวดล้อมของคลองน้ำที่ปล่อยกันนั้น ดูและคิดตามนะคะ

ปลาไหลโดนปลาดุกกินแล้วหนึ่ง กบกระโดดเกาะขอบปูนเพื่อหนีปลาดุกแวดล้อมไม่มีดินโคลนที่เหมาะกับสัตว์บางจำพวกนี้ ปลาตัวเล็ก ๆ ลูกปลาปล่อยลงก็โดนปลาใหญ่กินเกลี้ยง คนปล่อยคิดว่าวันนี้ฉันได้บุญแน่นอน ขึ้นสวรรค์แน่ ๆ เรา แต่สัตว์ที่ปล่อยไปอาจกำลังสาปแช่งคุณอยู่ก็เป็นได้ เรายืนดูแบบช่วยอะไรไม่ได้ ได้แต่คิดทบทวนในสิ่งที่ปล่อยมาเช่นกันว่าที่ผ่านมา เราจะได้อะไรจากเหตุการณ์นี้บ้าง ที่เราเรียกว่าบุญ’

สำหรับเหตุการณ์ปล่อยนก ปล่อยปลา ทางด้าน รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ อุปนายกสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย (TSPCA) และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เคยกล่าวไว้ว่า “ปล่อยนกปล่อยปลา” เป็นสำนวนไทยซึ่งหมายถึงการปล่อยให้เป็นอิสระ พ้นจากการผูกมัดหรือการไม่ถือสาหาความ ไม่เอาผิด คำพูดนี้มาจากสิ่งที่ชาวพุทธกระทำกันมาช้านานในการปล่อยนกปล่อยปลาเพื่อเป็นการทำบุญ โดยหารู้ไม่ว่าการกระทำเช่นนั้นโดยแท้จริงแล้ว เท่ากับเป็นการทำบาปเพราะก่อกรรมทำเข็ญสัตว์ การปล่อยนั้นคือการให้ซึ่งเสมือนการได้บุญหรือไม่ คำตอบก็คือมันมิได้เป็นการให้ หากเป็นการสร้างความทุกข์ทรมาน ทำให้ชีวิตพลัดพราก เกิดความตาย และนั่นคือบาป

นอกจากนี้ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) ได้เคยสรุปเรื่องของการทำบุญปล่อยชีวิตสัตว์ไว้อย่างเหมาะสมยิ่ง ดังข้อความต่อไปนี้ “…หากพิจารณาในเรื่องของบุญบาปตามหลักพุทธศาสนา เคยบอกว่าการทำบุญปล่อยชีวิตสัตว์ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เล็กหรือสัตว์ใหญ่ ต้องทำด้วยจิตมุ่งเป็นกุศลจริง ๆ แต่ถ้านำสัตว์มาปล่อยแล้วอธิษฐานว่าสาธุ ขอให้การปล่อยนี้ ขอให้อายุยืน ขอให้ถูกหวย ขอให้หายซวย สิ่งนี้ถือว่าไม่เข้าเกณฑ์เพราะมีเจตนาเคลือบแฝง เป็นการปล่อยเขาเพื่ออยากให้เราดีขึ้น เพื่ออยากให้เราหายทุกข์ หายโศก หายซวย อย่างนี้มันไม่ใช่การทำบุญ แต่เป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง อาจจะเป็นการลงทุนทางจิตวิญญาณก็ได้ เพราะเจตนาจริง ๆ ไม่ได้ต้องการช่วยเหลือเขา แต่ต้องการช่วยตัวเองต่างหาก โดยยืมชีวิตเขามาเป็นเครื่องมือ ถ้าท่านเมตตาจริง ๆ นะ ปล่อยให้นกอยู่บนฟ้าปล่อยให้ปลาอยู่ในน้ำนั่นคือสิ่งที่ถูกต้องที่สุด ปล่อยให้สัตว์ได้อยู่อย่างสัตว์ นั่นแหละคือการปล่อยนกปล่อยปลาที่แท้จริง…”

อย่างไรก็ตาม ด้านชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก หลายคนติงในเรื่องของการทำบุญด้วยวิธีดังกล่าว เหมือนการทรมานสัตว์อีกวิธีหนึ่ง ซึ่งรวมไปถึงการปล่อยสัตว์ต่างสายพันธุ์ให้อยู่ในที่เดียวกัน สามารถทำลายระบบนิเวศด้วย ขณะเดียวกันก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นติงว่า อย่าคิดอยากจะได้บุญอย่างเดียว ควรศึกษาพันธุ์สัตว์น้ำด้วย เพราะแต่ละสายพันธุ์อาศัยในที่แตกต่างกัน…

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ต้นหอม ช๊อป