จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก รายหนึ่งโพสต์คลิประบุข้อความว่า “ชายข้างในหมู่บ้านครับพฤติกรรมชอบหาเรื่องคนอื่น ล่าสุดควงปืนทุบรถ คนในหมู่บ้าน ผวาอยู่กันจะไม่ได้แล้ว ผู้ชายคลั่งในหมู่บ้านครับพฤติกรรมชอบหาเรื่องคนอื่น ล่าสุดควงปืนทบรถชาวบ้าน ก่อนหน้านี้เพื่อนบ้านต้องย้ายออกหลายหลังเนื่องจากถูกดักทำร้าย แต่ผู้ชายคนนี้ถูกตำรวจจับไปวันสองวัน เขาก็ปล่อยออกมาก่อเหตุบ่อยครั้งพิกัดบ้านกล้วยไทรน้อยบางบัวทอง นนทบุรี” เหตุเกิดวันที่ 9 ต.ค. ที่ผ่านมานั้น    

ล่าสุด เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณบ้านเลขที่ 55/33 ต.พิมลราช หมู่ 3 ซอย 5 หมู่บ้านทิพย์พิมานการ์เด้น พบนายอู๋ ไกรฤกษ์ อายุ 45 ปี เจ้าของบ้านและเจ้าของรถมิตซูบิชิ ปาเจโร สีขาว ทะเบียน 9 กส 4029 กรุงเทพมหานคร ที่ถูก นายจิรศักดิ์ ขาวสุด อายุ 31 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 55/38 ซึ่งห่างกันประมาณ 5 หลัง คลุ้มคลั่งกระโดดขึ้นไปบนรถ ใช้ด้ามปืนทุบกระจก หน้ารถได้รับความเสียหาย ก่อนจะโยนปืนทิ้งเข้าไปในบ้านผู้เสียหาย และหยิบเซ็นเซอร์รถปาขึ้นบนหลังคาบ้าน   

นายอู๋ กล่าวว่า วันที่ 9 ต.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 07.30 น. ตนนอนอยู่แล้วได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย เลยเดินมาดู เห็นผู้ก่อเหตุกำลังทุบรถตน ตนไม่ทราบสาเหตุ ไม่มีเหตุผล ไม่รู้จัก ไม่เคยมีเรื่องอะไรกับเขา หลังจากนั้นตนมาดูที่รถ จึงบอกให้ภรรยาเรียกตำรวจ เขาก็วิ่งหนีไปหลบใต้รถเขา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไป พอวันจันทร์ส่งฟ้องศาลพิพากษาจำคุก 1 เดือน ส่วนค่าเสียหายยังไม่มีการพูดถึง ทั้งนี้ตนเพิ่งย้ายมาอยู่ตรงนี้ประมาณ 6 เดือน เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ตนนั่งอยู่ที่บ้าน และเขามาตะโกนด่าตนหน้าบ้านหาว่าตนไปมองหน้าเขา ซึ่งตนไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นเขา และไม่เคยไปมองหน้า ตนอยู่ในบ้านของตน เชื่อว่าทุกท่านในหมู่บ้านในซอยเดือดร้อนกับบุคคลคนนี้มากเหมือนกับตน อยากจะขอให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา เป็นไปได้อยากให้ติดต่อญาติมารับตัวไปอยู่ที่อื่น อย่าให้มาอยู่ที่นี่เลย ทุกคนต้องอยู่อย่างหวาดกลัว อยู่กันอย่างหวาดวิตกมาเป็นปีๆ ตนเพิ่งย้ายมาอยู่ก็หวาดวิตกไปด้วย ต้องกั้นประตูเพราะมันน่ากลัว เมื่อลองดูในข่าวพบว่า เมื่อ 6 ปีที่แล้ว เขาได้ก่อเหตุจับลูกวัย 10 เดือน เป็นตัวประกันและตำรวจมากันเยอะเลย มีการซ้อมภรรยาด้วย ตนเพิ่งย้ายมาไม่ค่อยทราบแต่ดูจากข่าว 

ด้าน น.ส.ธนาภา อ่อนมิ่ง อายุ 39 ปี คนในหมู่บ้าน เล่าว่า ทราบว่าเขาอยู่กับครอบครัว แต่ไม่ทราบว่าเป็นคนยังไงเพราะไม่ได้ใส่ใจ ต่างคนต่างอยู่ แต่ที่พอทราบและมีเหตุการณ์ที่หนักคือเขาจับลูกกับภรรยาเป็นตัวประกัน ประมาณปี 55-56 ซึ่งพอเจอเคสนั้นตนรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ไม่ปลอดภัย ซึ่งหลังจากนี้ต้องระวังตัวเองอยู่ตลอด ต้องปิดบ้านให้แน่นหนา ต้องเซฟตัวเอง ทั้งนี้เห็นในกลุ่มหมู่บ้านว่าญาติเขาจะติดต่อกลับมาเรื่องนี้ แต่ยังไม่มีความคืบหน้า ยังเงียบอยู่ ตนอยู่ในซอยเดียวกัน ติดตามเรื่องตลอดทุกช่องทางเพราะในกลุ่มหมู่บ้านก็ไม่ค่อยลงข้อมูลอะไร แต่ตนจะติดตามจากคนในหมู่บ้านว่าผู้ชายคนนี้ทำอะไรบ้าง เคสนี้ไม่ใช่เคสแรก ก่อนหน้านี้เขาจะถือมีดเดินเข้าไปในบ้านคนอื่น ซึ่งบ้านใครไม่ล็อก เขาก็เดินเข้าไปทุกบ้าน ถือมีดเข้าไปและไปทำลายข้าวของเขา เรื่องพวกนี้เกิดมานานแล้ว ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ทุกคนไม่กล้าที่จะพูด เพราะเขาเคยบอกแล้วว่า ถ้าเขาออกมาได้ทุกคนจะเดือดร้อน

เบื้องต้นผู้ก่อเหตุถูกตำรวจจับไปตั้งแต่วันเกิดเหตุ ศาลตัดสินให้จำคุก 1 เดือน ปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนปลอม ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติ พบคนร้ายเคยก่อเหตุจับลูกเป็นตัวประกันเมื่อหลายปีก่อนด้วย.