จากกรณีเพจ “ข่าวสาร บ้านค่าย” ได้โพสต์ลงเตือนภัยว่า มีหญิงลักษณะวัยรุ่นก่อเหตุเติมน้ำมันใส่แกลอนจำนวนมากแล้วหลอกโอนเงินผ่านแอปธนาคารทางโทรศัพท์ แต่ไม่มีเงินเข้าบัญชี ซึ่งก่อเหตุ 3 วันติด เหตุเกิดที่ปั๊มน้ำมัน หจก.พี เอส เซอร์วิส บ้านค่าย เลขที่ 81 หมู่ 9 ต.ชากบก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง โดยรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุเป็นรถกระบะยี่ห้อ อีซุซุ รุ่น ดีแมคซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียน กอ 1512 ชลบุรี แต่ยังหลบหนี จึงโพสต์เตือนภัย

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 19 ต.ค. เวลา 13.00 น. ห้องวิทยุสถานีตำรวจภูธรบ้านค่าย อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบรถยนต์คันดังกล่าวมาจอดอยู่ภายในปั๊มน้ำมันเชลล์ หมู่ 2 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง คาดว่ากำลังจะมาก่อเหตุอีก จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ ก่อนนำตัวคนขับและรถยนต์คันดังกล่าวมาที่ สภ.บ้านค่าย ทราบชื่อต่อมา น.ส.วรินทร์กร (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ชาว อ.ประทวน จ.นครราชสีมา อยู่ในอาการหน้าเศร้าสลด โดยมี น.ส.สีดาสิริ พรมสิงห์ อายุ 50 ปี พนักงานเติมน้ำมันของปั๊มน้ำมัน หจก.พี เอส เซอร์วิส ซึ่งทางผู้เสียหายได้รับมอบอำนาจจากเจ้าของปั๊มน้ำมัน ให้ทำการชี้ตัวผู้ต้องหา และต่อมาได้นำตัวผู้ต้องหาไปชี้ที่เกิดเหตุ ที่ปั๊มน้ำมันดังกล่าว

น.ส.สีดาสิริ เล่าว่า วันเกิดเหตุ 16 ต.ค. เวลา 09.00 น. ขณะที่ตนปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ปั๊มน้ำมัน ผู้ต้องหาได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวเข้ามาภายในปั๊ม บอกให้เติมน้ำมันดีเซลใส่ถังเป็นเงิน 1,500 บาท หลังจากเติมเสร็จ ผู้ต้องหาบอกว่าจะสแกนจ่ายผ่านแอพของธนาคาร หลังจากทำรายการแล้วได้ส่งโทรศัพท์ให้ดูว่าได้โอนแล้ว และขับรถยนต์ออกไป ต่อมาวันที่ 17 ต.ค. เวลา 09.00 น. หญิงคนเดิมได้เข้ามาที่ปั๊มอีก และบอกว่าให้เติมน้ำมันใส่แกลอนที่อยู่หลังรถกระบะเป็นเงิน 11,800 บาท โดยใช้วิธีเดิมบอกว่าโอนผ่านแอพแล้ว ก่อนขับรถยนต์ออกไป ถัดมาวันที่ 18 ต.ค. หญิงคนดังกล่าวได้ขับรถเข้ามาอีก ซึ่ง น.ส.สีดาสิริ ได้แจ้งบอกคนขับว่า เมื่อ 2 วันก่อนที่เติมน้ำมันไปนั้น ยังไม่มีเงินผ่านเข้าบัญชีเลย ซึ่งวันนี้ก็ยังเติมน้ำมันดีเซลใส่ถังอีกเป็นเงิน 8,600 บาท ก่อนจะขับรถยนต์หนีไปอีก ตนจึงได้มาแจ้งความที่ สภ.บ้านค่าย ไว้

ต่อมาได้มี น.ส.แพรพลอย คำปัน อายุ 26 ปี เจ้าของร้านขายของชำ ได้เดินทางมาดูหน้าตาผู้ต้องหาที่เคยก่อเหตุเมื่อหลายเดือนก่อน ซึ่งยืนยันว่า ใช่คนเดียวกัน เข้ามาซื้อของภายในร้านค้าไปประมาณ 2,000 บาท และได้สแกนจ่ายผ่านแอพ แต่เงินไม่เข้าผ่านระบบ โดยแค่ให้ดูว่ามีการโอนเงินผ่านจริง แต่ไม่ได้กดยืนยัน เงินจึงไม่ผ่านบัญชีของผู้รับ

เบื้องต้นได้ยึดรถยนต์คันดังกล่าวเพื่อตรวจสอบ กล่าวหาผู้ต้องหาว่า ลักทรัพย์ของผู้อื่น โดยใช้กลอุบาย โดยใช้ยานพาหะนะในการกระทำผิด พาทรัพย์นั้นไปให้พ้นการจับกุม นำตัวผู้ต้องหาส่ง พ.ต.ต.ชณัฐชัย วงศ์ศรีวิจิตร สว. (สอบสวน) สภ.บ้านค่าย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.