เรียกได้ว่ากลายเป็นข่าวเศร้า และอุทาหรณ์ของสายนักวิ่ง หลังจากมีหนุ่มวัยกลางคนได้ซ้อมวิ่งที่สวนลุมพินี เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา แล้วเกิดอาการวูบหมดสติ ภายหลังต่อมาหลังจากนั้นเพียง 4 วัน ก็มีการรายงานข่าวว่าหนุ่มดังกล่าวเสียชีวิตแล้ว

โดยล่าสุดวันที่ 21 ตุลาคม 2565 นพ.อกนิษฐ์ ศรีสุขวัฒนา ผู้ชำนาญการ (อายุรแพทย์โรคหัวใจ) โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ก็ได้ออกมาเปิดเผยให้ความรู้เกี่ยวกับโรควูบ ที่เป็นภัยเงียบ แต่ส่งผลกระทบถึงขั้นเสียชีวิตคล้ายกับเคสนักวิ่งข้างต้น

โดยคุณหมอได้ให้ข้อมูลว่า “โรควูบ อันตรายถึงชีวิต ฝากถึงนักกีฬา และบุคคลทั่วไปที่ออกกำลังกาย อาการวูบ ขณะออกกำลังกาย ให้ถือว่าเป็นความผิดปกติ ที่อาจทำให้เสียชีวิตได้ การวูบ เป็นลม ส่วนใหญ่ จะมาจาก การออกกำลังกายที่หนักเกินไป นานไป
แต่ส่วนน้อย มาจากการมีโรคซ่อน โดยเฉพาะ โรคหัวใจ และโรคสมอง ที่อันตรายมากๆ

ดังนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่วูบ หรือจะวูบ (วูบหมายถึง หมดสติจอดับไม่รู้ตัว อาการหน้ามืดเวลาเปลี่ยนท่าไม่นับเป็นวูบ) ต้องพบแพทย์ ยิ่งเร็วยิ่งดี ตรวจให้แน่ใจ ว่าไม่มีโรคอันตรายซ่อนอยู่ ก่อนที่จะออกกำลังครั้งต่อไป เราไม่สามารถแยกเองได้ 100% ว่า วูบจากออกกำลังหนัก หรือวูบจากมีโรคซ่อน การวูบ หน้ามืด เจ็บหน้าอก ขณะแข่ง ไม่มีการนั่งพักให้หายแล้วไปต่อ การแข่ง คุณในวันนั้นจบลงแล้ว และต้องบอก เพื่อนนักวิ่ง บอกเจ้าหน้าที่สนาม เพื่อไป รพ. ตรวจรักษา หาสาเหตุนะ เพราะโรคบางอย่างอาจเป็นโรคที่ต้องรักษาเร่งด่วน วูบ ต้องตรวจให้แน่นอน ว่าไม่มีอะไรซ่อน ยิ่งตรวจเร็วยิ่งดี ถ้ายังไม่ตรวจ อย่าเพิ่งไปออกกำลัง เพราะอาจอันตรายถึงชีวิตได้ถ้ามีโรคซ่อน

ขอเพิ่มเติมเนื้อหา เพื่อความเข้าใจ การออก zone สูงๆ ไม่เกี่ยวกับการเสียชีวิตโดยตรงนะครับ ถ้าคนนั้นไม่มีโรคซ่อนอยู่ ออก zone สูงก็ แค่เหนื่อย ล้า เมื่อยกล้ามเนื้อ แต่ไม่ทำให้เสียชีวิต กลับกันการใช้ชีวิตประจำวัน หรือแม้ออกกำลังไม่หนักมาก มีโอกาสเสียชีวิตได้ครับ ถ้ามีโรคซ่อน สำคัญคือต้องคัดกรอง ว่าเรามีโรคซ่อนที่เราไม่รู้ตัวไหม และควรทำโดยรีบด่วน ถ้ามีอาการเตือน เหล่านี้ เจ็บหน้าอก ใจสั่น หน้ามืดเป็นลม”…

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : @Akanis Srisukwattana