สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ว่า สำนักงานคณะเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้รายงานว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธนำวิถีอย่างน้อย 3 ลูก มีทิศทางมุ่งหน้าไปทางทะเลตะวันออก เมื่อช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น


หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง สำนักงานยามฝั่งของญี่ปุ่นรายงานว่า ขีปนาวุธของเกาหลีเหนือลูกหนึ่งตกลงในมหาสมุทรแปซิฟิก ห่างจากชายฝั่งทางตะวันออกของประเทศประมาณ 1,100 กิโลเมตร ขณะที่ทางการเปิดไซเรนเตือนภัย ประชาชนในจังหวัดมิยางิ นิงาตะ และยามางาตะ ให้เข้าสู่สถานที่หลบภัย

ทั้งนี้ เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธผ่านน่านฟ้าของญี่ปุ่นครั้งหนึ่ง เมื่อต้นเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2560 ที่ขีปนาวุธของรัฐบาลเปียงยางเดินทางผ่านน่านฟ้าของญี่ปุ่น

เครื่องบินขับไล่เอฟ-15เค ของกองทัพเกาหลีใต้ ปล่อยขีปนาวุธมุ่งหน้าไปทางเกาหลีเหนือ


ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงวันเดียว หลังเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธมากกว่า 20 ลูก เมื่อวันพุธที่ผ่านมา และหนึ่งในนั้นตกในเขตทางใต้ของแนวจำกัดตอนเหนือ ( เอ็นแอลแอล ) ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตแดนทางทะเลระหว่างสองเกาหลี เป็นครั้งแรก โดยห่างจากเมืองซ็อกโช ไปทางตะวันออกราว 57 กิโลเมตร และห่างจากเกาะอุลลึง ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 167 กิโลเมตร ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องเปิดไซเรนเตือนภัย เป็นสัญญาณให้ประชาชนในพื้นที่เร่งหาสถานที่หลบภัยชั่วคราว


อนึ่ง นับเป็นครั้งแรก ที่ขีปนาวุธของรัฐบาลเปียงยางตกใกล้กับเส้นเอ็นแอลแอล และเป็นสถิติการยิงขีปนาวุธมากที่สุดภายในวันเดียวของเกาหลีเหนือด้วย ขณะที่หลังจากนั้นไม่นาน กองทัพเกาหลีใต้ปฏิบัติการยิงขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศ 3 ลูก มีทิศทางพุ่งไปทางเหนือข้ามเส้นเอ็นแอลแอล เพื่อตอบโต้รัฐบาลเปียงยาง


ตอนนี้ สหรัฐและเกาหลีใต้อยู่ระหว่างการซ้อมรบทางอากาศร่วมกัน ภายใต้รหัสปฏิบัติการ “วิจจะเลินท์ สตอร์ม” ( Vigilant Storm ) โดยกองทัพอากาศของทั้งสองประเทศ ส่งเครื่องบินรบเข้าร่วมการฝึกซ้อมรวมกันประมาณ 240 ลำ รวมถึงเครื่องบินขับไล่เอฟ-35 คาดว่าจะมีการบินประมาณ 1,600 เที่ยว โดยการฝึกซ้อมเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 1-4 พ.ย.นี้.

เครดิตภาพ : REUTERS