กรณี ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ชาว อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เข้าร้องเรียนแอดมินเพจบ้านดุงอัพเดท และผู้สื่อข่าวอุดรธานี ว่าถูกกลุ่มเพื่อนหญิงอายุ 14 ปี โรงเรียนเดียวกัน ยกพวกรุมทำร้ายร่างกาย เพราะเข้าใจผิดคิดว่าไปคบกับชายวัย 50 ปี ซึ่งเป็นแฟนของคนในกลุ่มหนึ่งในคนที่ไปรุมทำร้าย โดยผู้เสียหายยืนยันว่า ตนไม่ได้คบกับชายคนดังกล่าวตามที่ถูกกล่าวหา และไม่กล้าออกนอกบ้าน เพราะกลัวและอับอาย เนื่องจากมีการนำภาพเปลือยไปแชร์ในโซเชียล จากนั้นมีการเข้าไปแจ้งความลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ไปหาหลักฐานมาแจ้งความดำเนินคดี ชายวัย 50 ปี เอง ตามที่ได้นำเสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

ส่อคุก! หาหลักฐานเอาผิดหนุ่มใหญ่วัย50 เนื้อหอม ปมเด็ก 14 รุมตบ ด.ญ. 13

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 4 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง ด.ญ.เอ เข้าพบ พ.ต.ท.มงคล กลางการ สว.(สอบสวน) สภ.บ้านดุง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับคนปล่อยคลิปแล้ว ปรากฏว่าทางตำรวจให้ไปหาหลักฐานต้นตอคนปล่อยคลิปมาให้ ไม่งั้นจะไม่สามารถดำเนินคดีได้ ขณะที่ปู่ วัย 60 ปี และย่า อายุ 56 ปี ของ ด.ญ.เอ ยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะเรื่องแค่นี้ไม่น่าจะถึงขั้นตบตีกัน โดยเฉพาะแย่งผู้ชายอายุรุ่นพ่อ อีกทั้งมีการถ่ายคลิปเปลือยโพสต์ประจานด้วย จนตอนนี้หลานสาวไม่กล้าแม้จะไปโรงเรียน มานานเป็นเดือน แล้วเพราะอับอาย และกลัวเพื่อนตบตีอีก จนล่าสุดทาง พ.ต.ท.วัฒนา มีทองหลาง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.บ้านดุง ยืนยันกับปู่และย่า ว่า จะส่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนติดตามเรื่องนี้ให้

จากนั้นผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านพักผู้เสียหาย ในเขตเทศบาลเมืองบ้านดุง พบว่า นางธนัชชา ทองวิไล นักสังคมสงเคราะห์บ้านพักเด็กและเยาวชน เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจ และสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับ ด.ญ.เอ โดยให้คำแนะนำเกี่ยวกับการย้ายโรงเรียนไปเรียนที่อื่น โดยทางเจ้าหน้าที่จะประสานให้ เบื้องต้นทาง ด.ญ.เอ ขอปรึกษาผู้ปกครองอีก จากนั้นมีการมอบเงินสงเคราะห์ให้ เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน ขณะที่ ด.ญ.เอ ยืนยันว่า ถูกเพื่อนผู้หญิงรุมทำร้าย ถ่ายคลิปเปลือยท่อนล่างประจานในเฟซบุ๊กจริง และไม่อยากให้ภาพกระจายไปมากกว่านี้เพราะอับอาย จึงไปแจ้งความ แล้วตอนแรกตำรวจบอกให้ไปหาคลิปหลักฐานมาเอง แต่ตอนนี้ทราบว่า ตำรวจแจ้งมาว่าจะสืบสวนหาคนปล่อยคลิปให้แล้ว ตน ปู่และย่า ขอยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะไม่อยากให้ไปก่อเหตุอีก

ด.ญ.เอ เปิดเผยอีกว่า วันนี้ดีใจระดับหนึ่งที่ได้ไปแจ้งความ คิดว่ากลุ่มเพื่อนคงไม่กล้าทำร้ายอีก แต่อย่างไรก็ตาม หนูอยากเปลี่ยนไปเรียนที่อื่น เพราะกลัวกระทบกระทั่งกันอีก ขอยืนยันว่า เรื่องที่แฟนของนายโจ๊ก บอกว่าตนแอบคบกับนายโจ๊ก นั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด แต่นายโจ๊ก เคยติดต่อมาหาตนว่า อยากมีอะไรด้วย เป็นแฟนกันได้ไหม แต่ตนตอบไปว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะนายโจ๊ก มีแฟนแล้ว และมีลูกแล้ว 2 คน ยืนยันว่า หัวเด็ดตีนขาดตนก็ไม่เอาคนรุ่นพ่อเป็นสามีแน่นอน ส่วนเรื่องคนปล่อยคลิปจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะกลัวภาพจะมีการแชร์กันออกไปอีก

ด้านย่า ด.ญ.เอ อายุ 56 ปี เปิดเผยว่า หลานคนนี้เป็นลูกของลูกชาย พ่อแม่เขาแยกทางกัน พ่อเขาไปทำงานรับจ้างที่กรุงเทพฯ ตนเลี้ยงไว้ 2 คน กับน้องชาย เพิ่งรู้ข่าวกับนักข่าวนี่แหละว่าหลานถูกถ่ายคลิปไปประจาน ก็ตกใจมาก แต่ก่อนหน้านี้ก็เคยถูกกลุ่มเพื่อนรุมทำร้ายมาแล้วครั้งหนึ่ง และเคยไปแจ้งความกับตำรวจแล้ว ตำรวจก็พยายามให้เซ็นยินยอมไกล่เกลี่ยให้เป็นเรื่องทะเลาะวิวาท และให้คู่กรณีชดใช้ 500 บาท ตนก็ไม่ยอม แต่ครั้งนี้มารู้ว่ามีการถ่ายคลิปโป๊เปลือยหลานสาวด้วย รู้สึกโมโหตรงนี้มาก จะไม่ยอมอีกแล้วแน่นอน ยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ส่วนที่ว่าหลานสาววัย 13 ปี ไปชอบคนรุ่นพ่อ อายุ 50 ปี คงเป็นไม่ได้ และตนจะไม่ยอมรับหลานเขยที่อายุรุ่นเดียวกับตัวเองแน่นอน