เมื่อวันที่ 16 พ.ย. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ปฏิเสธแสดงความเห็นภายหลังผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขชี้แจงให้ ครม.รับทราบ ประกาศกระทรวงสาธารณสุขควบคุมการใช้ช่อดอกกัญชา แต่ที่ประชุม ครม.ให้นำกลับไปทบทวนใหม่ โดยนายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้ตนอยู่ระหว่างการเดินทางกลับจากภารกิจที่ประเทศญี่ปุ่น ไม่สะดวกให้ข้อมูล

ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูง เปิดเผยว่า นี่ถือเป็นประกาศกระทรวงฉบับแรกที่นำเข้าพิจารณาในที่ประชุม ครม. เนื่องจากตามหลักการ ประกาศกระทรวง ต้องผ่านความเห็นจากคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้อง นำเสนอมายังคณะกรรมการภายใต้พระราชบัญญัตินั้นๆ เมื่อผ่านความเห็นชอบทั้งหมด นำเสนอไปยังรัฐมนตรีลงนามในประกาศ ซึ่งเป็นไปตามอำนาจโดยชอบธรรมตามกฎหมาย จากนั้นเลขาฯ ครม. มีหน้าที่นำประกาศนั้น เผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษา

เมื่อถามว่า ครม.สามารถยับยั้งการประกาศกระทรวงได้หรือไม่ แหล่งข่าวกล่าวว่า ไม่เคยมีประกาศใดที่ต้องเอาเข้าพิจารณาใน ครม.ดังนั้น คำถาม คือ กรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นการก้าวล่วงอำนาจรัฐมนตรีตามกฎหมายหรือไม่ และต้องไปดูต่ออีกว่า หาก เลขาฯ ครม.ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ จะมีความผิดหรือไม่

ต่อมา นายอนุทิน โพสต์โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว กรณี นายสมชาย แสวงการ ส.ว. แสดงความกังวลเกี่ยวกับร้านค้าที่ขายกัญชาให้นักท่องเที่ยวสูบในร้าน มีรายละเอียดดังนี้

“ได้เห็นข่าวท่าน ส.ว. สมชาย แสวงการ แสดงความกังวลเกี่ยวกับร้านค้าที่ขายกัญชาให้นักท่องเที่ยวสูบในร้าน ผมได้รับฟังและเข้าใจข้อกังวลของสังคมในเรื่องนี้มาระยะหนึ่งแล้ว ระหว่างที่เรารอการพิจารณา พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ในสภาครับ “

“นั่นคือเหตุผลที่เราออกประกาศสมุนไพรควบคุมกัญชาฉบับใหม่ที่ปรับปรุงจากฉบับเดิมขึ้นมา เพราะประกาศฉบับเดิมนั้นเน้นควบคุมการขายให้เด็กและสตรีมีครรภ์ แต่ฉบับใหม่มีการห้ามการขายช่อดอกทั้งหมดไม่ว่ากับใคร ยกเว้นได้รับอนุญาต โดยเฉพาะการขายช่อดอกที่แปรรูปเพื่อสูบด้วย แม้ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านยืนยันว่าการสูบกัญชาแบบคนที่ใช้เป็นจะไม่เป็นอันตรายเท่าเหล้าบุหรี่ ซึ่งเราก็ทำเพื่อตอบสนองต่อข้อกังวลของสังคมโดยตรง ระหว่างรอ พ.ร.บ.กัญชาฯ”

“ประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่ว่าด้วยเรื่องกำหนดช่อดอกเป็นสมุนไพรควบคุมนั้น ผมได้ลงนามและส่งไปที่สำนักงานเลขาธิการ ครม.เพื่อให้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว หมายความว่าหลังประกาศฉบับนี้ถูกประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ใครก็เปิดร้านกัญชาเพื่อสูบไม่ได้ ขายช่อดอกไม่ได้ ยกเว้นคนที่ขอใบอนุญาต ซึ่งเราเปิดช่องไว้สำหรับการแพทย์ อย่าลืมว่ามีการใช้กัญชาเพื่อรักษาโรคและบำบัดการติดยาเสพติดเช่นพวกยาบ้าได้ด้วย”

“ผมเห็นตรงกับท่าน ส.ว.ครับ อยากให้สภาพิจารณาผ่านกฎหมายโดยเร็ว ไม่ควรประวิงเวลา เพราะถ้ามีกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอยู่ในที่เดียวกัน แทนที่จะเป็นประกาศหลายๆฉบับอย่างที่มีอยู่ก็ย่อมสะดวกกว่าสำหรับผู้บังคับใช้ หากมีอะไรที่กระทรวงสาธารณสุขทำเพิ่มเติมได้ระหว่างนี้ เราก็จะดำเนินการอย่างดีที่สุดครับ”