เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่ จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ประสาน พ.ต.อ.พงศธร โสกูล ผกก.สภ.ครบุรี จ.นครราชสีมา น.ส.แสงดาว อารีย์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครราชสีมา และนางอรินท์มาศ กาแก้ว หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครราชสีมา ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปยังบ้านนายเอ้ (นามสมมุติ) อายุ 26 ปี ในพื้นที่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา หลังได้รับร้องเรียนจาก น.ส.บูม (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี ว่า นายเอ้ เป็นอดีตสามี ไม่ยอมทำงาน ไม่ดูแลลูกสาววัย 4 ขวบ ปล่อยให้เห็บเข้าหูลึกถึงชั้นใน และกัดรอบดวงตา แล้วไม่พาไปรักษา ขณะที่แม่ตนพยายามช่วย มาขอรับตัวไปเลี้ยงหลายครั้งแต่ไม่ยอม แม้จะให้ปลัด อบต. และผู้ใหญ่บ้านช่วยเจรจา แต่ก็ไม่ยอม เกรงว่าลูกจะได้รับอันตราย จึงเข้าร้องขอความช่วยเหลือดังกล่าว

น.ส.บูม เล่าว่า ก่อหน้านี้อยู่กินกับนายเอ้ ในพื้นที่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน อายุ 4 ขวบ ที่ผ่านมานายเอ้ ไม่ยอมทำงาน ดื่มสุราเป็นประจำ และบังคับให้ตนทำงานเผาถ่านขายหาเงินเลี้ยงครอบครัว ถ้าตนไม่ทำ ก็จะถูกนายเอ้ทำร้ายทุบตี กระทั่งลูกสาว 2 ขวบ ตนทนไม่ไหวจึงขอเลิกรา และจะเอาลูกมาเลี้ยงเอง แต่นายเอ้ไม่ยอม เมื่อ 2 เดือนก่อน เจ้าหน้าที่ปลัด อบต.ลำเพียก ผู้ใหญ่บ้าน ก็ได้ลงไปช่วยพูดคุยเจรจากับนายเอ้ แต่นายเอ้ก็ไม่ยอมให้ลูกมาอยู่กับแม่ กระทั่งทนไม่ได้ เพราะพบว่าลูกสาวถูกเลี้ยงดูแบบปล่อยปละละเลย จนเห็บสุนัข เข้าหู เข้าตาลูกสาว จึงต้องมาร้องให้มูลนิธิฯ ช่วย

จากการลงพื้นที่บ้านนายเอ้ หลังดังกล่าว เบื้องต้นพบสภาพบ้านเป็นเพิงสังกะสีเก่าทรุดโทรม ข้าวของรกวางระเกะระกะจนเป็นที่อยู่อาศัยของเห็บ หนู แมลงสาบ เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ นครราชสีมา จึงรับตัว เด็กหญิงวัย 4 ขวบ เข้ามาดูแลอยู่ในความคุ้มครองสวัสดิภาพทันที และพาไปทำการรักษา แพทย์ตรวจพบว่า เด็กถูกเห็บกัดบริเวณดวงตา อีกทั้งมีเห็บเข้าไปที่หูจนลึกถึงชั้นแก้วหู ซึ่งต้องใช้เวลารักษา นำตัวออกมา และดูแลเรื่องความสะอาดอย่างต่อเนื่อง ป้องกันการติดเชื้อ

โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าให้ความคุ้มครองสวัสดิภาพ และส่งตัวเด็กไปทำการรักษาและอยู่ในความดูแลทันที ส่วน น.ส.บูม ที่ต้องการรับลูกไปเลี้ยงเองนั้น ทางเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมฯ จะต้องมีการประเมินความพร้อมอีกครั้งตามขั้นตอน เนื่องจาก น.ส.บูม มีสามีใหม่ และมีลูกอีก 1 คน วัย 9 เดือน อยู่ โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามการช่วยเหลือร่วมกับ พม. ต่อไป