ในยุคที่ราคาน้ำมันมีแต่สูงขึ้นไม่มีแผ่ว จนทำเอาผู้ใช้รถหลายๆคน เลือกที่จะหันหน้าไปใช้รถพลังงานไฟฟ้า หรือ รถ EV เพื่อเป็นการประหยัดเงินในกระเป๋ากันเป็นจำนวนมากนั้น

แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 พ.ย. โลกออนไลน์ต่างถกเถียงถึงเรื่องการใช้รถ EV กันเป็นจำนวนมาก เมื่อมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์เล่าประสบการณ์หลังซื้อรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อหนึ่งมาใช้ ก่อนประสบอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อย ใต้ท้องรถครูดกับขอบถนน มุมฝากล่องครอบแบตใต้ท้องรถอ้า ประกันแจ้งราคาค่าซ่อมที่บริษัทรถตีไว้สูงเกินวงเงินประกัน จะคืนเงินให้ตามทุนประกัน และขายคืนเท่ากับซากรถ จากรถราคาเป็นล้าน ใช้ 1 เดือน ได้เงินคืนเพียง 7.7 แสน

โดยเธอระบุว่า “ถ้าไม่เจอกับตัว ไม่มีทางเข้าใจ และส่วนตัวดิฉันจะสู้ค่ะ แต่อยากขอถามด้วยเหมือนกันว่า ถ้าเป็นคุณ คุณจะสู้ไหม?!!” ออกรถใหม่ ประกันชั้น 1 เกิดอุบัติเหตุเล็กน้อย แต่ถูกตีค่าเสียหายสูงลิบจนประกันฯ เสนอคืนทุนฯ แบบอุบัติเหตุหนักที่เสียหายทั้งคัน และให้โอนกรรมสิทธิ์เป็นซาก!!

ดิฉันได้ออก รถ … รุ่น … ใหม่ จ่ายไปร่วมๆล้านเศษ พร้อมประกันชั้น 1 ตามแคมเปญจากทาง … ขับมาได้เดือนนึง เกิดอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อย มุมกล่องครอบแบตใต้ท้องรถครูดกับสันขอบทางทำให้มุมฝากล่องแบตอ้าออกมา ซึ่งรถก็ยังขับได้ตามปกตินำรถเข้าตรวจที่ศูนย์ … สาขาอุดมสุข และนำกลับไปใช้ตามปกติเพื่อรอนัดหมายฯ แต่กลายเป็นว่า ทางประกันติดต่อมาแจ้งพิจารณาคืนทุนประกันที่ 770,000 บาท และให้โอนกรรมสิทธิของรถแก่ประกันเสมือนเป็นซาก เพราะทาง … ตีค่าซ่อมสูงเกิน 70% ของวงเงินคุ้มครอง….ช็อกไหมคะ …หากเป็นคุณ คุณคิดว่าอย่างไร…จากอุบัติเหตุที่มีเสียหายภายนอกเพียงเล็กน้อย ถูกตีมูลค่าความเสียหายสูงลิบ ราวกับอุบัติเหตุรุนแรงจนเป็นซากถึงขนาดที่ประกันฯ พิจราณาคืนทุกประกัน!! … หากเป็นอย่างนี้ ไม่เท่ากับว่าลูกค้าจู่ๆ ก็ต้องสูญเงินราว 2 แสนกว่าบาทจากอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อย ทั้งที่มีประกันชั้น 1

เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา หลังจากออกรถมาได้ 1 เดือนพอดี (18 สิงหาคม 2565) สามีดิฉันและดิฉันขับรถเข้าซอยทางศรีนครินทร์ และเนื่องจากเป็นซอยแคบ มีรถสวนมา เราจึงถอยรถ เพื่ออำนวยความสะดวกให้รถเขาผ่านไปก่อน แต่ในขณะถอย ขับปีนขึ้นสันขอบทางเล็กน้อย ทำให้สันขอบทางไปโดนถูกใต้ท้องรถ มีเสียงดังเล็กน้อยแต่รถยังขับได้ปกติ เหมือนไม่เป็นอะไร จนเมื่อกลับถึงบ้าน เราก็ลองก้มลงมองใต้รถ ก็พบว่ามุมของฝาครอบกล่องแบตอ้าออก จึงรีบแจ้งบริษัทประกันมาช่วยดู ว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง และดำเนินการเคลมตามขั้นตอนปกติ โดยไม่คิดอะไร เพราะเราวางใจว่าเรามีประกันชั้น 1 และเห็นว่าเป็นเพียงอุบัติเหตุเล็กน้อย จึงได้นัดหมายนำรถเข้าศูนย์ที่ … สาขาอุดมสุข

หลังจากนั้น เราก็นำรถกลับไปใช้ก่อนเพื่อรอนัดหมายการเข้าซ่อมแซมตามเลขเคลมต่อไป แต่แล้ว อีกประมาณ 2 สัปดาห์ ถัดมา ทางบริษัทประกันฯ แจ้งมาว่า ทาง … ตีมูลค่า ค่าซ่อม 602,998.50 บาท (ช็อกครั้งที่ 1) และทางประกันฯ บอกว่าเกินมูลค่าที่ประกันชั้น 1 จึงต้องตีเป็นซากรถ โดยคืนเงินทุนประกันให้ 770,000 บาท พร้อมกับต้องส่งซากให้ประกันฯ (ช็อกครั้งที่ 2)

เราตกใจมาก ทำไมเป็นแบบนี้ เราเจอประสบอุบัติเหตุที่เล็กน้อยมากๆ และรถก็ยังขับได้ปกติ ไม่มีปัญหา และเราก็รักรถเรามาก ถึงขนาดเคยเขียนชื่นชมใน เว็บ … แต่สิ่งที่เราได้รับจาก … หลังจากที่เราได้ร้องขอผ่านสาขาอุดมสุขไป ให้เข้ามาดูแลกรณีนี้โดยเร็ว แต่ผ่านมากว่า 2 เดือน กลับ มีเพียงจดหมายจากทางฝั่งประกัน ยืนยันว่าจะตีเป็นซากรถให้เรา ถึง 3 ฉบับ โดยทาง … กลับเงียบเฉย ไม่เคยแม้แต่จะนัดหมายเพื่อขอตรวจสอบความเสียหายในรายละเอียด หรือให้ข้อมูลการวิเคราะห์ทางเทคนิคฯ อะไรเลย

จนล่าสุดเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ทางฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ของ … จึงติดต่อกลับมา และยังยืนยันว่าค่าซ่อมเป็นมูลค่า 602,998.50 บาท โดยประกันจะช่วย 5 แสนกว่า และ … จะให้ส่วนลดอีกประมาณ 40,000 กว่า ส่วนที่เหลือราวๆ 30,000 ลูกค้าจะต้องจ่ายเอง คำถามคือ

  1. ดิฉันสมควรต้องรับผิดชอบส่วนต่างร่วม 30,000 บาทนี้อย่างนั้นหรือ ทั้งที่รถมีประกันชั้น 1 ด้วยอุบัติเหตุที่มีความเสียหายภายนอกเพียงเล็กน้อย แต่กลับถูกประเมินอย่างไม่ใส่ใจให้ต้องแบกมูลค่าความเสียหายที่สูงลิบลิ่ว (ด้วยราคาค่าอะไหล่+ค่าแรง ที่กำหนดโดย … ) ซึ่งจนแม้ถึงขณะนี้ ดิฉันก็ยังไม่ได้รับการนัดหมายเข้าตรวจสอบทางเทคนิคใดๆ จาก … เพื่อให้ความกระจ่างกับลูกค้าว่า อะไรบ้างต้องซ่อม ต้องเปลี่ยน เพราะอะไร มีราคารายละเอียดอะไรบ้าง ฯลฯ
    2) ทำไมแคมเปญประกันชั้น 1 ที่ทาง … ให้กับลูกค้า เป็นทุนคุ้มครองความเสียหายเพียง 770,000 บาท ทั้งที่ตัวรถมีมูลค่า 959,000 บาท (หลังหักเงินสนับสนุนจากรัฐ) ซึ่งถามจริง มีลูกค้าท่านไหนบ้างที่ซื้อรถจากทางบริษัทฯ จะสังเกตมูลค่าเอาประกันไม่ตรงคุ้มครองเต็มมูลค่าจริงที่ซื้อมา …. แต่เอาเป็นว่า ทุนประกันฯคุ้มครองไม่เต็มมูลค่ารถทั้งคันตั้งแต่ต้น พอมีความเสียหายสูง จึงเสนอจะปิดคืนเพียงทุนประกัน แล้วจะเอาความชอบธรรมอะไรเข้าครอบครองกรรมสิทธิในรถทั้งคัน โดยเหมาเอาเองว่าเป็นซากและจะต้องโอนให้ประกันฯ … ประเด็นนี้ คงต้องพึ่งความเป็นธรรมจาก คปภ.
    3) ทำไมบริษัท … ถึงตีมูลค่าซ่อมสูงถึง 602,998.50 บาท ทั้งๆ ที่ความเสียหายมีเพียงแค่ฝากล่องคลุมแบตที่อ้าออก แม้จะอ้างว่าต้องเปลี่ยนกล่องครอบแบตและชุดแบตใหม่ทั้งชุด แต่ จริงๆแล้วคุณเป็นผู้ผลิตแบตดังกล่าว จะไม่มีหนทางเชียวหรอ ถ้าเช่นนั้น ใครก็ตามที่เจออุบัติเหตุใต้ท้องรถเพียงเล็กน้อย คงต้องได้รับความเสียหายเช่นเดียวกับดิฉันทุกรายไป!

หากผู้บริโภครับรู้ในเรื่องนี้ ใครจะกล้าเลือกซื้อรถจากค่ายนี้ ดิฉันอยากเห็นการบริหารจัดการของบริษัท … ที่ดีและสมควรกว่านี้ ใส่ใจดูแลและไม่ละเลยลูกค้าอย่างกรณีของดิฉัน ที่คิดค่าใช้จ่ายทำกำไรฉาบฉวยแบบเอาง่ายเข้าว่า จากความเสียหายเล็กน้อยนี้ในราคาที่แม้แต่บริษัทประกันฯ ยังต้องส่ายหน้า และรถนี้ก็เป็นของลูกค้าคุณ คุณควรจะบริหารค่าใช้จ่ายแบตที่มีความเสียหายเพียงแค่ฝาที่ครอบแบตแบบไหนกัน

“เดิมทีดิฉันชอบรถคันนี้มาก และยังได้จองรถรุ่น .. ไว้อีกคันหนึ่งด้วย จนเมื่อเจอปัญหานี้ ดิฉันจึงคิดจะสละสิทธิ์การจองฯ และ หันมาต่อสู้ให้ถึงที่สุด และใช้เรื่องราวของดิฉันเป็นกรณีศึกษาแก่เพื่อนๆผู้บริโภคได้พึงระวัง ให้พิจารณารายละเอียดความเสี่ยงให้รอบด้าน และคำนึงถึงความเป็นมืออาชีพและจรรยาบรรณของผู้ประกอบการเป็นสำคัญ #ไม่เจอกับตัวไม่มีทางรู้”..