จากกรณี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ออกมาเปิดเผยเรื่องราวของ ดารานักแสดงรุ่นใหญ่รายหนึ่ง ที่ไปก่อคดีทำร้ายร่างกาย นักแสดงน้องใหม่ ขณะไปเสริมหล่อที่ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งภายหลัง “ม้า-อรนภา กฤษฎี” ได้ออกมาโต้ข่าวดังกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวมีการปรับความเข้าใจกันไปแล้ว เป็นการเขียนเกินความจริง ซึ่งฝ่าย ทนายตั้ม ได้โต้กลับไปว่า เขาไม่ติดใจยังไง? ถึงไปจบที่แจ้งความ บล็อกเบอร์ บล็อกไลน์ เปลี่ยนไฟลต์บิน ย้ายโรงแรมหนี! จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางนั้น

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 พ.ย. โลกออนไลน์ได้เกิดกระแสวิจารณ์กันอย่างรุนแรงขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นอดีตครีเอทีฟ ได้ออกมาเปิดเผยระบุว่า “จะเล่าประสบการณ์โดนดาราตบกลางห้างให้ฟัง” ตอนนั้นทำงานเป็นครีเอทีฟ บ.อีเวนต์ บ.เราได้รับเลือกให้จัดงานอีเวนต์กลางห้างดังแถวๆบางนาเพิ่งเปิดใหม่ได้ 1-2 ปี บ.เราเชิญศิลปินรุ่นใหญ่ท่านหนึ่งมางาน ทีมงานประชุมแบ่งงานกัน พี่บอกให้เราไปดูแลดาราท่านนึง “เขาเอาใจยากหน่อย ฝากด้วยนะ แกทำได้อยู่แล้วหน้าที่นี่” ประชุมเสร็จมีคนมากระซิบบอกเราว่าจริงๆไม่มีใครอยากทำหน้าที่นี้

เช้าวันงาน เราไปเคลียร์ที่จอดรถห้างที่ดีที่สุด ติดประตูห้าง ติดทางเข้าไปห้องสแตนด์บายศิลปิน (ตามธรรมเนียมก่อนงานอีเวนต์เริ่ม เราต้องพาศิลปินเข้ามาที่ห้องสแตนด์บาย เพื่อเปลี่ยนชุด ทัชอัพ บรีฟคิวงานใดๆ เราได้ที่จอดเราตรงไหนก็โทรฯไปบอก ขอป้ายทะเบียน พอเขามาปุ๊บ เราก็จะพาเขาไปนั่งในห้องพักศิลปิน

แต่ศิลปินนี้เขาปฏิเสธไปห้องสแตนด์บาย ขอไปหน้างานเลย ทั้งที่ยังไม่ถึงเวลางานเริ่ม อีกตั้ง 2 ชั่วโมง เราขอปรึกษาทีม ทุกคนบอกให้พาเขามาได้ เราก็เดินนำเขาไปที่จัดงาน คือเราต้องเดินนำเขา เพราะเรารู้ว่างานจัดตรงไหน ระหว่างเดินๆจู่เหมือนมีอะไรมากระแทกหลังดัง ผั้วะ!!! แรงมาก ดังมาก และเจ็บมากๆ หันไปถึงได้รู้ว่าดาราคนนี้ใช้มือตบหลังเรา แกพูดเสียงดังมาก ทำไมถึงเดินไกลขนาดนี้ เดินไกลมาก คนหันมามองกันหมด แต่เราก็ตั้งสติพาเขาไปที่งาน ซื้อน้ำดื่มให้ที่สตาร์บัค ดูแลเขาจนจบงาน เพื่อนๆทีมงานก็ผลัดกันมาช่วยดูแล แต่จำได้ว่า อายก็อาย เหนื่อยก็เหนื่อย ความรู้สึกก็เสีย ทุกคนบอกว่าเป็นเรื่องปกติ ตอนนั้นเราได้แค่ปลอบตัวเอง พูดกับตัวเองว่าไม่เป็นไรนะ อยาาเก็บมานั่งคิดให้เสียเวลา คิดซะว่าจบงานนี้ไป เรายังมีหลายงานรออยู่

ทุกวันนี้ผ่านมา 7-8 ปี ไม่ได้ทำงานประจำแล้ว ถึงแม้จะผันตัวจากครีเอทีฟเป็นยูทูบเบอร์แล้วก็ตาม แต่เรามีความรู้สึกผิดกับตัวเองว่าทำไมตอนนั้นเราถึงยอมให้คนอื่นมาทำร้ายร่างกายเราได้ง่ายๆแบบนั้น และยิ่งเป็นที่สาธารณะด้วย ยิ่งไม่ควรเลย อยากบอกทุกคนที่โดนแบบนี้ให้กล้าพูด กล้าปกป้องตัวเอง ตัวเรา ร่างกายเรา เรามีสิทธิที่จะดูแล อย่าปล่อยให้ผ่านไปเฉยๆ ไม่งั้นมันจะมีความรู้สึกแย่กับตัวเองแบบที่เราเป็นนี่แหละ

วันนี้อ่านข่าวที่ดารารุ่นใหญ่ตบดารารุ่นน้อง แล้วนึกถึงสิ่งที่ตัวเองเจอ แต่ต่างกันตรงที่ ดารารุ่นร้องคนนี้มีความกล้าที่จะพูด กล้าที่บอกทนาย แต่คนในสังคมไทยบางคนวิจารณ์ว่าดารารุ่นน้อง อยากดังบ้าง ทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่บ้าง มีความสัมพันธ์กับดารารุ่นใหญ่บ้าง บางคนเข้าข้างคนที่ทำร้ายร่างกายเขา ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ?

“ส่วนตัวขอติดตามข่าวต่อไป และขอสนับสนุนให้คนกล้าที่จะปกป้องตัวเอง และต่อต้านคนที่ใช้ความรุนแรงในที่สาธารณะ เพราะไม่อยากเห็นใครมีบาดแผลในชีวิตรู้สึกผิดแบบเรา ทุกคนมีความเห็นว่ายังไงบ้าง มีความเห็นต่างได้นะคะ รอฟัง รออ่าน และรอความคืบหน้าของข่าวนี้เช่นกัน”

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ต่างมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเห็นกันเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญต่างไม่เห็นด้วยกับการกระทำของดารารุ่นใหญ่ คนดังกล่าว พร้อมวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงอีกด้วย..