เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 7 ธ.ค. ที่รัฐสภา นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะกรรมการบริหารพรรค กล่าวถึงการแถลงข่าวของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ พร้อมเสนอขอร่วมเป็นหนึ่งในรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ในระหว่างการเปิดตัวเข้าร่วมทำงานกับพรรคเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา ว่า ในฐานะกรรมการบริหารพรรค ขอต้องดำเนินการตามขั้นตอน ตามกลไกของพรรค ที่ต้องผ่านความเห็นชอบของที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.ของพรรค ทั้งการสรรหาผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร การเรียงลำดับบัญชีรายชื่อและระบบบัญชีรายชื่อ และบุคคลที่จะเป็นแคนดิเดตของพรรคพลังประชารัฐด้วย ทั้งหมดนี้จะต้องมีการระดมความคิดเห็นและต้องผ่านการประชุม การประชุมดังกล่าว การแถลงข่าวของนายมิ่งขวัญ เมื่อวานนี้ จึงเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นของมิ่งขวัญ เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล ดังนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นในการแถลงข่าว จึงไม่ได้ผูกพันอะไร

“การที่มิ่งขวัญเสนอตัวว่า จะเข้ามาทำอะไรบ้าง ถือเป็นเรื่องปกติ มองเป็นการตลาดของนายมิ่งขวัญ ถือว่าเข้าเป้าและขายได้ แต่ไม่ได้เป็นข้อผูกมัดต่อพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งยังไม่ถึงเวลาและมีกลไกที่จะต้องประชุมพิจารณา ทั้งนี้ ตนได้สอบถาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็บอกว่า ยังไม่ถึงขั้นตอนของการที่จะบอกว่าใครอยู่ในลิสต์ของบุคคลที่ถูกเสนอชื่อ ตอนนี้กำลังปวดหัวว่า มีคนเสนอตัวเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคจำนวนมาก จึงต้องมีการคัดสรร” นายรงค์ กล่าว

เมื่อถามว่า ส่วนที่ของนายมิ่งขวัญ ระบุว่า เข้ามาอยู่พรรคเพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะไปอยู่พรรคอื่นนั้น นายรงค์ กล่าวว่า ในความเห็นส่วนตัว นายมิ่งขวัญเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ แต่พอเข้ามาแล้วบอกว่าไม่เอา “ลุงตู่” อย่างนี้ไม่ดีกับพรรค และถ้าประกาศเช่นนี้ ภาคใต้ไม่ได้คะแนนเสียงแน่นอน และคนที่จะเสนอตัวมาเป็นผู้บริหาร หรืออยู่ในบัญชีรายชื่อที่จะเสนอเป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องนิ่ง มีบารมี หนักแน่น และต้องรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน

ทั้งนี้มีรายงานว่า ก่อนที่นายรงค์ จะมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ได้โทรศัพท์พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร หัวหน้าพรรค เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และ พล.อ.ประวิตร ให้ชี้แจงกับสื่อมวลชนได้.