เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. พ.อ.ภูมิพัฒน์  บุญเรืองขาว  ผบ.ฉก.ร.25 กกล.เทพสตรี   ได้รับรายงานจากชุดปฎิบัติการ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามตะเข็บชายแดน ไทย-เมียนมา   ด้านริมแม่น้ำกระบุรี  อ.กระบุรี  จ.ระนอง  ว่าขณะออกปฎิบัติหน้าที่  ด้วยการปลอมเป็นไรเดอร์ ขนส่งสินค้า  เกิดไปพบขบวนการขนยางพาราแผ่นดิบ ไม่ผ่านพิธีการศุลกากร  ข้ามจากหมู่บ้านหลุมพอยี  จ.เกาะสอง ประเทศเมียนมา  ผ่านแม่น้ำกระบุรี ด้วยเรือหางยาว   เข้ามาช่องทางตามธรรมชาติในพื้นที่ บ้านห้วยหลุง ม.8 ต.ปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนอง   เมื่อเจ้าหน้าที่ทหาร ได้แสดงตัวเข้าจับกุม  กลุ่มชายฉกรรจ์ ที่เป็นแรงงานกำลังช่วยกันขนยางพาราแผ่นดิบ  เห็นเจ้าหน้าที่ จึงได้กระโดดลงน้ำ ว่ายข้ามกลับไปยังฝั่งประเทศเมียนมา รวมทั้งเรือหางยาวที่แล่นหลบหนีทันที 

ส่วนรถกระบะที่บรรทุกยางพาราแผ่นดิบอยู่เต็มคัน  คนขับรถเร่งเครื่องหนีออกไปอย่างรวดเร็ว  โดยวิ่งผ่านสวนปาล์มน้ำมัน และมุ่งหน้าไปตามเส้นทางเข้าตัวหมู่บ้านห้วยหลุง  เจ้าหน้าที่ทหาร 2 นาย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไล่ติดตาม  พร้อมตะโกนให้จอด  แต่คนขับยังคงแล่นตะบึงไปตามถนน  แผ่นยางพาราที่ล้นกระบะท้ายรถน้ำหนักประมาณ  3,000 กิโลกรัม  ทยอยร่วงหล่นจากท้ายรถกระบะไปตลอดทาง  แต่คนขับกระบะยังไม่ยอมจอดและยังขับรถแบบไม่สนใจว่าจะมีรถชาวบ้านแล่นสวนมาหรือไม่   จนกระทั่งรถสามารถหนีมาขึ้นถนนลาดยางมะตอยในหมู่บ้านห้วยหลุง ได้ ก็เร่งความเร็วหลบหนีการติดตามของเจ้าหน้าที่ไปได้  

พ.อ.ภูมิพัฒน์ บุญเรืองขาว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25  สั่งเจ้าหน้าที่ทหาร  เร่งจับกุมผู้กระทำผิดให้ได้ภายในคืนนี้  โดยเชื่อมั่นว่ายังคงหลบหนีอยู่ในหมู่บ้าน  พร้อมสั่งให้เสริมกำลังชุดลาดตระเวนเพิ่มเติมตามแนวชายแดน  ริมฝั่งแม่น้ำกระบุรี  นอกจากนี้มีรายงานว่า ยังมียางพาราอีกนับหมื่นตัน  ที่ถูกนำมากองไว้ริมแม่น้ำกระบุรีฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน  กำลังจะรอข้ามแดนในช่วงค่ำคืนนี้ จึงสั่งเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสกัดจับ  เพราะหากหลุดรอดมาได้  อาจสร้างความเสียหายทางระบบเศรษฐกิจ และสร้างความเดือดร้อนกับเกษตรกรชาวสวนยางพาราภายในประเทศ