จากกรณีแม่นำลูกสาววัย 14 ปี อยู่ชั้นม.2 เข้าร้องเรียนต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ณ.ที่ทำการมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ถนนรังสิต-นครนายก ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หลังจากเดินทางมาจากจ.พิจิตร ว่า ลูกสาวถูกเพื่อนนักเรียนชาย 5 คนห้องเดียวกันรุมข่มขืนและถ่ายคลิปไว้ โดยเหตุเกิดที่หลังโรงเรียน หลังเกิดเหตุครูของโรงเรียนดังกล่าวได้ขอให้ย้ายไปเรียนที่อื่น ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 24 ม.ค.พ.ต.อ สุเมธ เงินบำรุง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหนองโสน จ.พิจิตร เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจหนองโสน  ได้เรียกนักเรียนทั้งหมด 5 คนมาทำการสอบสวนให้ปากคำ  ในขณะนี้ได้เรียกนักเรียนชายมาให้ปากคำ และแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว4 คน ยังเหลืออีก 1 คน คาดว่าจะเข้าพบตำรวจในวันนี้

หลังสอบปากคำอนุญาตให้เด็กเดินทางกลับบ้านได้ เพราะผู้ปกครองนำตัวมาพบตำรวจและไม่มีพฤติกรรมหลบหนี โดยจะมีการสอบต่อหน้าสหวิชาชีพอย่างละเอียดอีกครั้ง  ส่วนประเด็นรุ่นพี่ผู้หญิงอายุ 15 ปี ที่อาจมีส่วนร่วมในการพาเด็กนักเรียนหญิงอายุ 14 ปี ไปยังจุดเกิดเหตุเพื่อให้เพื่อนผู้ชายกระทำชำเรา และถ่ายคลิปไว้จริงหรือไม่นั้น จะมีการสอบสวนและเรียกตัวมาให้ปากคำต่อไป หากมีข้อมูลว่าเป็นผู้นำพา นักเรียนหญิงผู้เสียหายไปพบนักเรียนชายทั้ง 5ราย ก็จะมีการแจ้งความดำเนินคดีด้วย

แม่ร่ำไห้ลูกสาวม.2ถูก5นร.ชายรุมโทรมถ่ายคลิป ช้ำหนักถูกรร.บีบให้ลาออก

ด้านผอ.โรงเรียนเกิดเหตุ  กล่าวว่า หลังเกิดเรื่องทางโรงเรียน ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจได้เรียกผู้ปกครองและนักเรียนกลุ่มที่ก่อเหตุ เข้ามาพูดคุยโดยได้สั่งให้นักเรียนทั้ง 5 คน ย้ายทั้งหมดไปโรงเรียนอื่น และไม่สามารถไล่ออกได้ เนื่องจากนักเรียนอยู่ในช่วงการศึกษาภาคบังคับ โดยหากมีความประสงค์ที่จะไปเรียนที่ใดทางโรงเรียนก็พร้อมที่จะทำหนังสือส่งตัวให้ ส่วนจะกระทำจริงหรือไม่ให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย

“จุดที่เกิดเหตุไม่ได้อยู่ในเขตโรงเรียน แต่ห่างจากโรงเรียนไปประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นป่าอ้อยของชาวบ้านรถยนต์ ไม่สามารถเข้าไปได้ต้องใช้การเดินจากหลังโรงเรียน ลัดเลาะไปตามแนวป่าอ้อยและมีเนินต้นไม้ใหญ่ เป็นที่พักร้อนของชาวไร่ โดยวันเกิดเหตุนักเรียนที่ก่อเหตุทั้ง 5คน ไม่ได้เดินทางมาเรียนหนังสือ มีเพียงนักเรียนหญิงผู้เสียหาย ที่มาเรียนแต่ออกไปตอนพักเที่ยง ซึ่งทางโรงเรียนก็มีความพยายามที่จะไม่ให้นักเรียนออกนอกโรงเรียนอยู่แล้ว แต่นักเรียนก็พยายามหนีออกไปจนได้ ประกอบกับสภาพโรงเรียนก็มีบริเวณกว้างไม่มีรั้วรอบขอบชิด”ผอ.โรงเรียน กล่าว