เมื่อวันที่ 17 ก.พ. หน่วยกู้ภัยอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้รับแจ้งจากสายด่วน 1669 ขอรถนำผู้บาดเจ็บ สาเหตุถูกช้างเตะจนสลบ เพื่อนร่วมงานนำตัวมาส่งที่ รพ.สต.กรอกสมบูรณ์ จ.ปราจีนบุรี หลังได้รับแจ้งจึงรีบเดินทางไปยังจุดรับแจ้ง พบผู้บาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อนายสาลี ทึมกระโทก อายุ 56 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ อยู่ในสภาพสะลึมสะลือ จากการสอบถามทราบว่า ช่วงเช้าตนเองพร้อมเพื่อนร่วมงานอีก 10 คน เข้าไปตัดอ้อยในพื้นที่รอยต่อระหว่างทุ่งพระยากับเขาไม้แก้ว จ.ปราจีนบุรี ขณะที่กำลังตัดอ้อยและมัดอ้อยอยู่นั้น เหลือบไปเห็นช้าง จึงได้หันกลับมาตะโกนบอกเพื่อนร่วมงานว่ามีช้างมาและกำลังจะหันหลังวิ่ง ก็ถูกช้างใช้เท้าหน้าด้านขวาเตะเข้าปลายคางอย่างจัง ตนเองสติวูบไป และมารู้ตัวอีกครั้ง ตอนเพื่อนร่วมงานกำลังหามตนเองขึ้นรถเพื่อจะไปส่งที่ รพ.สต.กรอกสมบูรณ์ หลังจากนั้นทางรถหน่วยกู้ภัยได้นำตัวส่งที่ รพ.ศรีมหาโพธิ เพื่อให้แพทย์เอกซเรย์สภาพร่างกายให้อย่างละเอียดอีกครั้ง คาดว่าน่าจะเป็นช้างป่าจากเขตอนุรักษ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืชเขาอ่างฤาไน ที่ออกมาหากินอยู่บริเวณดังกล่าวเป็นประจำ


ด้าน นายวรวิทย์ สุขเจริญ เพื่อนคนงาน กล่าวว่า ขณะที่ตนเองและผู้บาดเจ็บกำลังตัดอ้อยอยู่นั้น ทางผู้บาดตะโกนมาว่า มีช้างอยู่ในป่า อ้อย หลังจากได้ยินคำร้องบอกจากเพื่อนที่โดนช้างเตะ ต่างคนต่างรีบวิ่งออกจากป่าอ้อยแบบไม่คิดชีวิต สายตามองเห็นช้างตัวใหญ่น้ำหนักราว 4 ตัน วิ่งไล่พวกตนเองหลังจากช้างได้สงบลง และเดินออกไปจากป่าอ้อย ตนเองและเพื่อนร่วมงานได้วิ่งเข้ากลับไปยังป่าอ้อยตรงจุดที่พบนายสาลีนอนสลบอยู่ จึงรีบนำตัวออกมาจากป่าอ้อย และนำส่ง รพ.สต.กรอกสมบูรณ์

นายวรวิทย์ กล่าวอีกว่า มีช้างป่าเข้ามาบริเวณดังกล่าวบ่อย บางทีมาเป็นโขลงกว่า 10 ตัว ปกติไม่ค่อยทำอะไร จะมีแต่ตัวนี้ตัวเดียวที่เข้ามา และเจอคนไม่ได้จะทำร้ายทันที ส่วนช้างตัวดังกล่าว ยังไม่ทราบชื่อว่าอะไร รู้แต่เพียงว่าเป็นช้างเพศผู้ ชอบอยู่ลำพังเพียงตัวเดียว.