เมื่อวันที่ 28 ก.พ. รายการโหนกระแสวันนี้ ที่มี หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ทำหน้าที่พิธีกร ได้มีการพูดคุยกันต่อในประเด็นการค้นหาเด็กวัย 8 เดือน ที่หายไปจากบ้าน ซึ่งแม่เด็กสารภาพว่าทำลูกตกพื้นตอนที่อุ้มกินนม ทำให้ลูกแน่นิ่งเสียชีวิต จึงนำลูกไปวางทิ้งริมตลิ่ง แต่จนถึงตอนนี้เวลาผ่านไปเกือบ 1 เดือน ยังไม่พบแม้แต่ร่องรอยของน้อง

นายพิเชษฐ์ เอมศรี หัวหน้าชุดปฏิบัติการใต้น้ำส่วนกลางนครปฐม เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ทีมกู้ภัย ทีมประดาน้ำ ลงปฏิบัติการลงประดาน้ำสแกนเป็นหน้ากระดานทั่วทั้งคลอง ไม่พบสิ่งต้องสงสัยในน้ำเลย เป็นการค้นหาที่ละเอียดที่สุดเท่าที่เคยทำมา มั่นใจว่าถ้ามีร่างของเด็ก ต้องเจอแล้วแน่นอน ล่าสุดมีการสั่งยุติการค้นหาทางน้ำแล้ว

ดร.นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกรมสุขภาพจิต วิเคราะห์กรณีที่ทางมูลนิธิกระจกเงา เผยแพร่ถ้อยคำสัมภาษณ์ของแม่เด็ก ที่บอกเล่าชีวิตในวัยเด็กที่เจอเรื่องราวร้ายๆ มาตลอด ทั้งปัญหาครอบครัว การถูกบูลลี่ต่างๆ นานา เรื่องนี้ ดร.นพ.วรตม์ มองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตกับชีวิตของเขา เราสามารถเห็นอกเห็นใจเขาได้ แต่กับเหตุการณ์ในปัจจุบัน มันเป็นคนละเรื่องกัน เราไม่จำเป็นต้องเห็นอกเห็นใจก็ได้ แต่การรับรู้ว่าคนๆ นี้ ผ่านอะไรมา เติบโตมาอย่างไร อาจจะทำให้เราเข้าใจคนๆ นี้มากขึ้นก็ได้ ซึ่งคำว่าเข้าใจ ไม่ได้แปลว่าเห็นอกเห็นใจ

สิ่งนี้เป็นเรื่องที่ดีที่เราได้สะท้อนหลายๆ มุม และเกิดการถกเถียงขึ้น โดยเฉพาะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยังไม่จบ ข้อมูลต่างๆ ก็ยังออกมาไม่ครบ ยังไม่เจอตัวเด็ก อยากแนะสังคมว่าอย่าเพิ่งเอาอารมณ์ลงไปร่วมเยอะขนาดนั้น

ด้าน พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีต รอง ผบช.น. มองว่า เรื่องนี้ต้องย้อนกลับมาที่คำให้การของแม่เด็ก ถ้าบอกว่าเขาเอาลูกไปโยนทิ้งลงคลอง มั่นใจว่าไม่กี่วันศพจะต้องลอย ส่งกลิ่นเน่า สัตว์ต่างๆ ก็คงจะมากัดแทะ ต้องมีคนพบกระดูก แต่ถ้าทิ้งลงแม่น้ำท่าจีน ที่กระแสน้ำแรง ก็น่าจะลอยไปไกลมากๆ หากย้อนดูคำให้การของแม่เด็ก เขาโกหกมาตั้งแต่วันแรก แล้วล่าสุดที่เขามาบอกว่าทำลูกตกจากอ้อมแขน ความแรงของการตกที่ทำให้เด็กตายทันที มันดูเป็นไปได้ยาก ตนจึงไม่เชื่อในแง่นี้

พล.ต.ต.วิชัย มองอีกว่า การแจ้งข้อหาของพนักงานสอบสวน เร็วเกินไป เพราะหลักฐานที่มีอยู่แค่คำให้การของผู้ต้องหา มันไม่เพียงพอ เขาจะให้การยังไงก็ได้ ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเด็กเสียชีวิตจริงหรือไม่ ถ้าจู่ๆ ตำรวจไปแจ้งว่า กระทำการประมาท ทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต แล้วจู่ๆ มาเจอเด็กยังมีชีวิตอยู่ แบบนี้จะมีปัญหาตามมาอีกเยอะแยะไปหมด

ในเรื่องของการออกไปยืนคุยโทรศัพท์ ช่วงที่ออกจากบ้านไปกลางดึก ตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญ ตำรวจคงจะได้ข้อมูลเรื่องการใช้โทรศัพท์ แล้วปลายสายที่คุยจะต้องมาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการสืบสวน ต้องตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์ว่า ปลายสายคุยอยู่ที่เดิม หรือขยับเข้ามาใกล้แม่เด็กเรื่อยๆ ตรงนี้มันบอกอะไรได้หลายอย่าง

ด้าน นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโสสำนักงานการสอบสวน มองอีกมุมว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ว่า แม่เด็กเอาเด็กไปขายให้ใครหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาถ้ากู้ภัยระดมค้นหาขนาดนี้ยังไม่เจอแม้แต่เบาะแส มันก็ยังทิ้งประเด็นอื่นๆ ไม่ได้

ส่วนเรื่องที่แม่เด็กได้ประกันตัวในราคาต่ำมาก เป็นเพราะพยานหลักฐานต่างๆ ที่มีอยู่ ไม่เพียงพอให้ตำรวจแจ้งข้อหาใดๆ ได้ นอกจากข้อหาให้การเท็จ ตราบใดที่ยังไม่พบศพเด็ก ก็ยังสรุปข้อหาประมาททำให้เสียชีวิต หรือข้อหาอื่นๆ ได้เลย

นายปรเมศวร์ บอกอีกว่า สิ่งที่เราทำกันอยู่ตอนนี้ ล้วนเป็นการวิเคราะห์จากคำให้การของเขา ซึ่งไม่รู้ว่าจริงเท็จเป็นอย่างไร เรื่องนี้ยิ่งคุยก็ยิ่งไม่ได้ข้อสรุป เพราะยังไม่มีพยานหลักฐานที่มีน้ำหนักเชื่อถือได้