เมื่อวันที่ 7 มี.ค. พ.ต.อ.อนุรักษ์ ปลัดมุข ผกก.สภ.ปะทิว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (6 มี.ค.) นายชวลิต ชุมเกษียณ นายกเทศมนตรีตำบลชุมโค นายธนวัฒน์ โพธิสาร นายกเทศมนตรีตำบลทะเลทรัพย์ นำหน่วยกู้ภัย ชุดประดาน้ำ เจ้าหน้าที่ อป.พร.กว่า 100 นาย ออกค้นหา ด.ช.วิวัต ภู่ทอง อายุ 8 ขวบ จมน้ำทะเลหายบริเวณแหล่งท่องเที่ยวอ่าวทุ่งซาง หมู่ 5 บ้านบางจาก ต.ชุมโค อ.ปะทิว จ.ชุมพร

สืบเนื่องจากช่วงเวลา 18.00 น. วันที่ 5 มี.ค. ที่ผ่านมา ร.ต.อ.สายัณตร์ ตุมระวัต รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปะทิว ได้รับแจ้งมีเด็กชายลงเล่นน้ำทะเลจมสูญหาย ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทราบว่าผู้สูญหายคือ ด.ช.วิวัต ภู่ทอง อายุ 8 ขวบ เจ้าหน้าที่พร้อมหน่วยกู้ภัย นักประดาน้ำระดมกำลังออกค้นหากระทั่ง 22.00 น. ก็ยังไม่พบ จึงยกเลิกภารกิจเพื่อรอออกค้นหาในวันใหม่

กระทั่งช่วงเช้าของวันที่ 6 มี.ค. เจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้ไปรวมตัวพร้อมกันที่บริเวณชายหาดอ่าวทุ่งซาง แต่ไม่สามารถออกค้นหาได้เนื่องจากทะเลมีคลื่นลมแรง ต้องรอจนถึงช่วงบ่ายเวลา 14.00 น. คลื่นลมเริ่มสงบจึงออกค้นหา โดยวางแผนแบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด ค้นหาทั้งในน้ำและเดินเท้าตามชายฝั่ง ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ชุดค้นหาได้รับแจ้งจาก นายพิชัย ศักดิ์ปฏิฐา ชาวประมงชายฝั่ง ที่ร่วมทีมออกค้นหาว่า ”พบร่างของ ด.ช.วิวัติ ถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยฝั่ง ห่างจากจุดจมน้ำมาทางทิศเหนือประมาณ 1 กิโลเมตร” เจ้าหน้าที่ได้นำร่างของ ด.ช.วิวัต ส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลปะทิวอย่างละเอียด เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีชายชาวอเมริกัน อายุประมาณ 45 ปี เป็นครูสอนภาษา อยู่ในโบสถ์คริสต์แห่งหนึ่งใน ต.มาบอำมฤต อ.ปะทิว ได้พาครอบครัวของตนเอง มีภรรยา และลูกชาย 1 คน พร้อมกับเด็กชายชาวไทย 4 คน มาเที่ยวทะเลในวันหยุดพักผ่อน ระหว่างที่กำลังพักผ่อนกันอยู่บนชายหาด ด.ช.วิวัต และลูกชายของครูสอนภาษาชาวอเมริกันได้ลงไปเล่นน้ำทะเล โดยเด็กทั้ง 2 คน เกาะลูกยางอัดลมรูปตัวปลา ห่างจากฝั่งประมาณ 3-5 เมตร แล้วถูกคลื่นซัดเข้าใส่จน ด.ช.วิวัต จมน้ำหายไป ส่วนลูกชายของครูสอนภาษาได้เกาะปลายางไว้แน่น แล้วมีแรงงานชาวเมียนมาที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุได้ยินเสียงร้อง จึงลุยน้ำลงไปช่วยเหลือนำตัวขึ้นฝั่งมาได้อย่างปลอดภัย

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างสอบปากคำครูสอนภาษาชาวอเมริกัน พร้อมกลุ่มบุคคลที่ไปด้วยกันและพยานที่เห็นเหตุการณ์ เพื่อดำเนินการกับครูสอนภาษา เนื่องจากเป็นผู้พาเด็กไปเล่นน้ำ ไม่มีความระมัดระวังเพียงพอจนเด็กจมน้ำเสียชีวิต อาจมีความผิดในข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตต่อไป.