กรณีหนุ่มโหดใช้น้ำมันราดหญิงสาววัยประมาณ 45 ปี ก่อนจุดไฟเผา โดยมีพลเมืองดีเป็นคนขับรถสองแถวมาช่วย ถูกไฟลวกไปด้วย กระทั่งหญิงสาววิ่งหนีลงร่องน้ำท้ายซอยนิคมบางปู ซอย 9 อ.บางปู จ.สมุทรปราการ โดยฝ่ายชายยังตามมาใช้มีดกระหน่ำแทง 6 แผล จนเสียชีวิตในสภาพเปลือย จากนั้นได้หลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่รวบรวมหลักฐานขอศาลจังหวัดสมุทรปราการ อนุมัติหมายจับในข้อหาฆ่าโดยไตร่ตรอง กระทั่งมาถูกตำรวจจับกุมได้ หลังขับรถกระบะหลบหนีมาจอดอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมของกลางมีดดาบที่ใช้ก่อเหตุ สารภาพว่าทำไปเพราะความหึงหวง ก่อนถูกนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.บางปู จ.สมุทรปราการ เพื่อสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

รวบแล้ว! ‘หนุ่มโหด’ ราดน้ำมันเผาแทงซ้ำสาว45ดับสยอง แฉจนมุมริมแม่น้ำบางปะกง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 7 มี.ค. ภายหลังจากตำรวจคุมตัว นายพิสุทธ์ศิริ จันทร์โสดา อายุ 42 ปี ผู้ต้องหามาถึง สภ.บางปู สังเกตเห็นได้ชัดว่ามีสีหน้าเคร่งเครียด และระหว่างเดินเข้าห้องสอบสวนยังกล่าวขอโทษญาติผู้เสียชีวิตที่เดินทางมาดูหน้าด้วยความเศร้าโศก หลังทราบข่าวว่าจับกุมตัวได้ ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เดินทางมาร่วมสอบปากคำด้วยตัวเองด้วย ก่อนออกมาเปิดเผยว่า สอบปากคำผู้ต้องหารับสารภาพว่า อยู่กินกับผู้ตายมาสักระยะแล้ว ต่อมาไปพบข้อความผู้ตายแอบไปคุยกับชายอื่น จึงโมโหเกิดมีปากเสียงทะเลาะกัน จากนั้นผู้ตายได้ไปพักอยู่กับเพื่อนได้ 4-5 วัน กระทั่งช่วงสายวันเกิดเหตุ (5 มี.ค.) ผู้ต้องหานัดผู้ตายให้มาหา เพื่อเคลียร์ปัญหากัน ก่อนจะชักชวนกันไปทำบุญที่วัดคลองเก้า

พ.ต.อ.โชติวัฒน์ กล่าวอีกว่า หลังทำบุญทั้งสองไปนั่งคุยกันบริเวณทางเข้าสนามกอล์ฟ ใกล้ที่เกิดเหตุ ระหว่างนั้นผู้ต้องหาพบว่าผู้ตายยังแอบไปคุยกับชายอื่น จึงโมโหมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง จนสติแตกใช้น้ำมันเบนซินที่เตรียมมา เทราดเมียรัก และยังเทราดตัวเองด้วย พร้อมกับขู่ว่า จะเผาให้ตายไปด้วยกันทั้งคู่ แต่ขณะนั้นผู้ตายใจดีสู้เสือ ทำทีคุยดีด้วยจนผู้ต้องหาเริ่มใจเย็นลง ก่อนที่จะขับรถไปบริเวณที่เกิดเหตุและเตรียมเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปื้อนคราบน้ำมันออก ก่อนแวะซื้อไอติม ผู้ตายจึงฉวยจังหวะเผลอวิ่งลงจากรถไปขอความช่วยเหลือ

รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ กล่าวว่า ทำให้ผู้ต้องหาโมโหกลับไปเอาน้ำมันเบนซินในรถสาดใส่ผู้ตาย ที่หนีไปหลบอยู่หลังพลเมืองดีที่บาดเจ็บอีกราย ก่อนหยิบไฟแช็กจุดไฟเผาผู้ตาย ทำให้พลเมืองดี ถูกไฟลวกบาดเจ็บไปด้วย ส่วนผู้ตายที่ถูกไฟเผา จึงรีบวิ่งลงไปในน้ำ แต่ผู้ต้องหาไม่ยอมลดละ วิ่งกลับไปที่รถหยิบเอามีดยาวกว่า 40 ซม. ตามไปจ้วงแทงจนเสียชีวิต ก่อนจะขับรถหลบหนีไปในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา กระทั่งถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว ทั้งนี้ผู้ต้องหาอ้างว่าไม่ได้มีการเตรียมการมา ส่วนน้ำมันเบนซิน อ้างว่าซื้อไปเติมรถจักรยานยนต์ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนไปสอบปากคำเพิ่มเติมดำเนินคดีต่อไป

ด้าน นายพิสุทธ์ศิริ เปิดใจและยอมให้สัมภาษณ์ว่า ยอมรับว่าลงมือก่อเหตุจริง สาเหตุเพราะเก็บอารมณ์ความโกรธมา 2 ปี ที่ฝ่ายหญิงแอบไปคุยชู้กับชายอื่นในแชต ก่อนหน้านี้ยอมรับว่าเคยคุมอารมณ์ไม่อยู่ ลงมือทำร้ายฝ่ายหญิงจริงด้วยการตบ ทำให้ฝ่ายหญิงหนีออกจากห้องพักไปกว่า 10 วัน จากนั้นได้ขอนัดคุยนัดเคลียร์ปัญหาจนฝ่ายหญิงตกลงตามที่นัดหมาย กระทั่งวันเกิดเหตุ จึงขับรถไปรับฝ่ายหญิงตามนัด พาไปทำบุญที่วัดคลองเก้า จากนั้นพาไปจอดรถนั่งเล่นที่สนามกอล์ฟ ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู ระหว่างนั่งคุยเล่นกัน ถูกฝ่ายหญิงดุด่าจนเกิดความโมโห และข่มขู่ว่าจะราดน้ำมันเผาให้ตายทั้งสองคนหากยังไม่หยุดด่า

นายพิสุทธ์ศิริ เล่าอีกว่า พอขึ้นรถมาได้ ก็ยังถูกฝ่ายหญิงต่อว่าอีก ทำให้เกิดความโมโห ใช้น้ำมันราดฝ่ายหญิงและตัวเอง หวังข่มขู่ แต่ด้วยความคันจากน้ำมันจึงพากันถอดเสื้อหวังเปลี่ยนเสื้อผ้า ระหว่างทางฝ่ายหญิงอ้างหิวน้ำจึงจอดรถที่เกิดเหตุ พอจอดรถฝ่ายหญิงจึงเปิดประตูวิ่งไปขอความช่วยเหลือ ด้วยความโมโหและคุมอารมณ์ไม่อยู่จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว เมื่อถามว่าเตรียมการมาหรือไม่ ผู้ต้องหาอ้างว่าไม่ได้เตรียมการ แกลลอนน้ำมันที่เตรียมมาอ้างว่าเตรียมไว้เติมรถจักรยานยนต์ที่เอาไปจำนำ เพื่อเอาเงินมาจากค่างวดรถยนต์ที่ค้างไว้

ขณะเดียวกันทางญาติของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาดูหน้าผู้ต้องหาที่ สภ.บางปู ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ให้อภัย ไม่รับคำขอโทษจากผู้ต้องหา และอยากถามว่าทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้ หลังจากเกิดเรื่องยอมรับว่าทุกคนหวาดกลัวที่ผู้ต้องหาจะย้อนมาก่อเหตุกับคนในครอบครัว พอทราบว่าถูกจับตัว ก็รู้สึกสบายใจขึ้น และต้องขอบคุณตำรวจที่ตามจับกุมตัวได้ ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด