เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม นายสุรเดช ตรงศิริวิบูลย์ ผอ.สนง.ศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมด้วย นายวาริส วิสารทานนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบสินค้า นายประสิทธิ์ ดีจงเจริญ ผอ.ส่วนควบคุมทางศุลกากร นายฐิติพงศ์ คำผุย ผอ.ส่วนบริการฯ 1 นายเศรษฐวุฒิ จันทร์วัฒนะ ผอ.ศูนย์เอกซเรย์ฯ ร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงาน ป.ป.ส. กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ศูนย์รักษาความปลอดภัย ด่าน อย.ท่าเรือแหลมฉบัง ทำการตรวจยึดสินค้าผ่านแดน “กรดซัลฟิวริก” ปริมาณ 126,000 กก. จำนวน 5 ตู้คอนเทเนอร์ มูลค่าของกลางกว่า 12.6 ล้านบาท

นายจุลพงษ์ กล่าวว่า การนำเข้า ส่งออกผ่านแดน สินค้าอันตรายประเภทเคมีภัณฑ์สำหรับการผลิตในอุตสาหกรรม ต้องได้รับอนุญาตจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม โดยต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้นำไปใช้เป็นสารเคมีตั้งต้น ในขบวนการลักลอบผลิตยาเสพติดได้

ด้านนายสุรเดช กล่าวว่า สนง.ศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ได้ทำการตรวจสอบสินค้าผ่านแดนประเภทวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 “กรดซัลฟิวริก” ต้นทางอินเดีย ปลายทางเมียนมา ซึ่งในขณะปฏิบัติพิธีการศุลกากร ผู้ขอผ่านแดนมิได้นำใบนำผ่านวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 (แบบ วอ./อก.28) มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ฯ แต่อย่างใด จึงได้กักสินค้าเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดและนำมาสู่การตรวจยึดในวันนี้ ซึ่งในกรณีนี้ เป็นความผิดฐานนำสินค้าที่ผ่านราชอาณาจักร หรือกำลังผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักร หรือนำของเข้าเพื่อการผ่านแดน โดยหลีกเลี่ยงข้อจำกัดหรือข้อห้ามอันเกี่ยวกับของนั้น อันเป็นความผิดตามมาตรา 244 ประกอบมาตรา 252 มาตรา 102 มาตรา 104 และมาตรา 106 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 และเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 ประกอบประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย 2556

ขณะที่นายประสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่ปีงบฯ 2566 สนง.ศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง สามารถตรวจยึดสินค้าสารเคมี “โซเดียมไซยาไนด์” 220,000 กก. ที่พยายามส่งออกไปยังเมียนมา และจับกุมพืชยาเสพติด 2 แฟ้มคดี ที่พยามลักลอบนำเข้า คือ “เมล็ดฝิ่น” 26,000 กก. และ “ใบคัตอบแห้ง” 5,600 กก. รวมมูลค่าของกลางกว่า 112 ล้านบาท