เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ที่ห้องประชุมกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้แถลงข่าวผลบูรณาการ เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ ตำรวจภูธรภาค 7 ภาค 8 และ ภาค 9 ในพื้นที่ 22 จังหวัด 155 สถานีตำรวจ ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ส. และที่เกี่ยวข้อง ปิดล้อมตรวจค้นจำนวน 1,492 จุด โดยมีเป้าหมายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด จำนวน 505 เครือข่าย

โดยสามารถจับกุมได้ 765 คดี จับกุมผู้ต้องหา พร้อมของกลางยาเสพติด หรืออาวุธปืนทั้งสิ้น 786 คน ศาลอนุมัติออกหมายจับ 57 หมาย จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 44 คน การตรวจยึดของกลาง ได้แก่ ยาบ้า 1,388,000 เม็ด ไอซ์ 50,250 กรัม เคตามีน 2.20 กรัม เฮโรอีน 25.31 กรัม ยาอี 5 เม็ด ยาแก้ไอ 62 เม็ด 14 ขวด อาวุธปืน 71 กระบอก รถยนต์ 3 คัน ตรวจยึดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบ รวมมูลค่าประมาณ 54,821,150 บาท ทรัพย์ที่เกี่ยวต่อเนื่องรวม 44,660,500 บาท

สืบเนื่องจากเจ้าพนักงานชุดจับกุม ได้ร่วมกันทำการสืบสวนจับกุมเครือข่าย นักค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีพฤติกรรมร่วมกันติดต่อสั่งซื้อยาเสพติดจากเครือข่ายนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลาง เพื่อส่งจำหน่ายให้เครือข่ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อนจะจับกุมตัวผู้ต้องหา หลังจากนั้น เจ้าพนักงานชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนขยายผล ทราบว่ายังมีเครือข่ายไม่ถูกจับกุม เตรียมการในการลักลอบลําเลียงยาเสพติดชนิดยาบ้าจํานวนมากจากพื้นที่ภาคกลาง เพื่อนำส่งให้เครือข่ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน หลังจากนั้น จึงได้ประสานการปฏิบัติระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสืบสวนขยายผลและติดตามจับกุมดังกล่าว

พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า วันนี้ตำรวจทั้ง 3 ภาค ได้เปิดปฏิบัติการพร้อมกัน โดยมีเป้าหมายจำนวนกว่า 1,000 เป้าหมาย สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมดประมาณ 900 กว่าราย แบ่งเป็น ภาค 7 ได้จำนวน 252 ราย ภาค 8 ได้จำนวน 273 ราย และภาค 9 ได้จำนวนกว่า 300 ราย โดยยึดของกลางเป็นยาเสพติด ยาบ้า จำนวนกว่า 1 ล้านเม็ด และยาเสพติดชนิดอื่นอีกจำนวนมาก ซึ่งเป็นผลงานของ จ.นราธิวาส ส่วนยาบ้ารายใหญ่ที่จับได้ ก็มีในพื้นที่ จ.สงขลา และ จ.พัทลุง และนอกจากนั้น ยังคงยึดอาวุธปืนรวมทั้ง 3 ภาคแล้ว ประมาณเกือบ 100 กระบอก โดยเฉพาะปลายทางในการลำเลียงยาเสพติดภาคใต้นั้น จะใช้พื้นที่ของ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่จะลักลอบเข้ามาจำหน่าย ก็ได้มีการทลายเครือข่าย มีการยึดทรัพย์ทั้ง 3 ภาค ยอมรับว่า ยาเสพติดเหล่านี้ได้มีการหลุดรอดและตกหล่นแพร่ระบาดในพื้นที่บ้าง แต่เป้าหมายจริงๆ คือส่งไปยังประเทศที่ 3 ซึ่งอยู่ในระหว่างการขยายผลต่อไป

พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวอีกว่า จะเห็นได้ว่าปัญหายาเสพติดนั้น เป็นปัญหาที่สังคมไทยห่วงใย เดือดร้อนจากการที่บุตรหลานติดยาเสพติด เมื่อเสพมากๆ ก็จะเกิดการเพี้ยนและคลั่ง ยกตัวอย่างเช่น เหตุการณ์กราดยิง ที่ จ.หนองบัวลำภู จำนวน 38 ศพ ตำรวจแห่งชาติ ได้ดำเนินการเชิงรุกในการปราบปรามจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ และขยายผลการจับกุมต่อเนื่องยึดทรัพย์สินผู้ค้ายาเสพติด ประกอบกับ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มีนโยบายให้ทุกหน่วยในสังกัด ดำเนินการปราบปรามทำลายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดทุกระดับ เพิ่มความเข้มในการทำลายเครือข่ายผู้ค้ารายย่อยในระดับชุมชน ที่มีความใกล้ชิดกันประชาชนอย่างจริงจัง และให้ดำเนินการสืบสวนขยายผลเพื่อจับกุมดำเนินคดีและยึดทรัพย์สินผู้ค้ายาเสพติด ทั้งระดับรายย่อยในชุมชน ผู้ค้ารายกลางและรายใหญ่ ที่มีความเชื่อมโยงหลายพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ.