เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า ในการประชุมคณะกรรมการกำหนดยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง เพื่อติดตามการดำเนินการของพรรคในเรื่องกิจกรรมการปราศรัยหาเสียง การสื่อสารและประชาสัมพันธ์ และการจัดทำนโยบาย เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ที่ผ่านมา ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและในฐานะหัวหน้าพรรค เป็นประธาน ได้หารือถึงเรื่องของการวางแผนหาเสียงและกำหนดยุทธศาสตร์เจาะลึกลงไปในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่เป้าหมายที่พรรคต้องการปักธง ส.ส. ทางผู้บริหารจึงใช้เวลานานในการพูดคุยและวางแผนในรัดกุม

สำหรับกำหนดการเตรียมเดินสายปราศรัยของหัวหน้าและแกนนำพรรคตลอดเดือน เม.ย. ได้มอบหมายให้หัวหน้าภาคแต่ละภาค และแกนนำพรรค เป็นตัวหลักรับผิดชอบในการช่วยเวทีปราศรัยหาเสียง โดยกำหนดการเบื้องต้น เริ่มจากภาคเหนือ วันที่ 6 เม.ย. จ.สุโขทัย วันที่ 7 เม.ย. จ.ตาก วันที่ 8 เม.ย. จ.สมุทรสาคร วันที่ 9 เม.ย. จ.ปทุมธานี วันที่ 10 เม.ย. จ.นครปฐม และเว้นในช่วงวันหยุดสงกรานต์ จากนั้นวันที่ 19 เม.ย. ที่ จ.ฉะเชิงเทรา

ภาคอีสาน ในวันที่ 22 เม.ย. จ.นครราชสีมา จากนั้นจะลงใต้ วันที่ 28 เม.ย. จ.สงขลา วันที่ 29 เม.ย. จ.นครศรีธรรมราช วันที่ 30 เม.ย. จ.ขอนแก่น วันที่ 1 พ.ค. จ.ร้อยเอ็ด โดยภาคอีสานและภาคใต้ คาดว่า พล.อ.ประวิตร จะนำหัวหน้าทีมนำแกนนำและผู้บริหารปราศรัยหาเสียง และเวทีปราศรัยปิด วันที่ 12 พ.ค. นี้ ที่ กทม.

ส่วนความเคลื่อนไหวที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) วันนี้ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ  P-MOVE เดินทางมายื่นหนังสือเสนอนโยบายต่อพรรคการเมือง 5 ด้าน ได้แก่ 1.ที่ดินและที่อยู่อาศัย 2.เสรีภาพ กระบวนการยุติธรรม 3.สิทธิ สถานะ และชาติพันธุ์ 4.รัฐสวัสดิการ และการกระจายอำนาจ 5.โครงการพัฒนาของรัฐ และสาธารณูปโภค เพื่อให้พรรค พปชร. นำไปพิจารณากำหนดเป็นนโยบายพรรค

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศก่อนการยื่นหนังสือ บริเวณด้านหน้าพรรค พปชร. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน มาคอยดูแลความปลอดภัย เนื่องจากจำนวนผู้ยื่นหนังสือมีมากถึง 50 คน ทางเจ้าหน้าที่จึงมีความกังวลว่า จะเกิดความชุลมุน ทําให้ต้องมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด ขณะที่ประชาชนกลุ่ม P-Move ได้มีการโบกธงสัญลักษณ์ของกลุ่มเครือข่าย พร้อมชูป้ายข้อความ อาทิ ลบล้างและปฏิรูประบบบริหารจัดการนโยบาย กฎหมาย เกี่ยวกับฐานทรัพยากร, คนไทย ไม่ไร้ สิทธิสถานะ, ที่ดิน เสรีภาพ ประชาธิปไตย ความเป็นธรรม เป็นต้น และยังมีป้ายข้อความที่ระบุข้อเรียกร้อง และนโยบายที่ต้องการเสนอต่อพรรคการเมือง 

ต่อมาเวลา 10.15 น. นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค พปชร. ได้เดินทางมารับหนังสือจากกลุ่ม P-MOVE ตามเวลานัดหมาย โดยนายไพบูลย์ กล่าวว่า ได้อ่านข้อเสนอนโยบายทั้ง 5 ด้านครบถ้วนแล้ว ทางพรรค พปชร. มีความเห็นสอดคล้องกับข้อเสนอของกลุ่ม P-MOVE และจะนำข้อเสนอนโยบายทั้ง 5 ด้านที่เสนอมา เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายของพรรค พปชร. ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่ที่พบขณะนี้ เป็นปัญหาในเรื่องที่ดิน ทำกิน และปัญหาสิทธิ สถานะของชาติพันธุ์

ส่วนการเสวนาของกลุ่ม P-MOVE ที่จะมีการจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในวันที่ 6 เม.ย. นี้ ตนยืนยันว่าจะไปร่วมด้วยตัวเอง เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับหลากหลายพรรคการเมือง และรับฟังความคิดเห็นของประชาชน

 นายไพบูลย์กล่าวต่อไปว่าหากประชาชนมีข้อเสนอ ปัญหา และนโยบายต่างๆ สามารถมาส่งเรื่องที่พรรค พปชร. เพื่อพบกับตนได้ และอยากให้มีเวลาร่วมกันในการประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนข้อเท็จจริงอย่างละเอียด ตามกระบวนการอย่างเป็นระบบ นี่คือกลไกการทำงานภาคประชาชน  รวมทั้งน.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ “ตะวัน” และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือ “แบม” ว่า หากมีความทุกข์ร้อนที่เห็นปัญหาของสังคม ขอให้นัดตนเพื่อที่จะมาพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นตามแนวทางประชาธิปไตยอย่างถูกที่ถูกทาง ตนในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. จะได้ประโยชน์และมีแนวทางทางออกที่จะสามารถแก้ไข อะไรที่ทำได้ตนก็จะพูด ไม่มีการปิดบังกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากการยื่นหนังสือให้กับพรรค พปชร. แล้ว กลุ่ม P-MOVE จะเดินทางไปยื่นหนังสือให้กับพรรคการเมืองอีก 4 พรรค ประกอบด้วย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อชาติ พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล