จากกรณี ด.ต.อรรถพร วิเชียร อายุ 46 ปี ผบ.หมู่ งานป้องกันปราบปราม สภ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมพวกรวม 4 คน ใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 และอาวุธปืนลูกซอง ยิงถล่มบ้านพ่อตาใน อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 ศพ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ สภ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้ประชุมร่วมกับ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ. ภาค 8 พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 และ พล.ต.ต.ศรัญญู ชํานาญราช ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามคดี รวมทั้งสอบปากคำ นายมานพ (สงวนนามสกุล) หนึ่งในผู้ต้องหาคดีนี้ด้วย

ภายหลัง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีนี้มีผู้ร่วมก่อเหตุ 4 คน จับกุมแล้ว 1 คนคือ นายมานพ เสียชีวิต 2 คน คือ นายธรรมรัตน์ และนายอรรถพล พี่ชายและลูกชายของ ด.ต.อรรถพร โดย ด.ต.อรรถพร ได้หลบหนีไปพร้อมกับอาวุธปืนสงคราม และอาวุธปืนพกสั้น ซึ่ง ผบช.ภ.8 ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัว เนื่องจากเป็นบุคคลอันตราย

ในการสอบสวนนายมานพ อ้างว่า ไม่ทราบว่า ด.ต.อรรถพร จะชวนไปก่อเหตุดังกล่าว ที่ไปด้วยคิดว่าจะพาไปเป็นสายยาเสพติด แต่ตำรวจไม่ปักใจในการให้การของผู้ต้อง ซึ่งจะต้องเป็นไปตามวัตถุพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ ส่วนกรณีอาวุธปืนสงครามที่ ด.ต.อรรถพร ใช้ก่อเหตุ ได้สั่งการให้ สภ.คีรีรัฐนิคม ซึ่งเป็นต้นสังกัดรายงานการเบิกจ่ายอาวุธปืน เป็นการเร่งด่วน ซึ่งตรงนี้มีระเบียบเกี่ยวกับการกำกับดูแลอยู่ แต่ล่าสุดยังไม่ได้รับรายงาน

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิต ผบช.ภ.8 ได้มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.เกรียงไกร เกตุแก้ว ผกก.สภ.คีรีรัฐนิคม ไปช่วยราชการที่ สปก.ภ.8 และให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเกี่ยวกับกรณีเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามลอบยิง นายธรรมรงค์ เมื่อเดือนธันวาคม 256 แต่ไม่ได้มีการสืบสวนติดตามคนร้ายเพื่อยุติความขัดแย้ง โดยอ้างว่าผู้เสียหายไม่ติดใจ ซึ่งขณะนี้ เรากำลังเชื่อมโยงว่าการเกิดเหตุครัังก่อนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุครั้งนี้หรือไม่.