เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากแนวทางสืบสวนคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง พบว่านางสรารัตน์ หรือแอม รังสิวุฒาภรณ์ อายุ 36 ปี เริ่มเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจรับจำนำรถ ปล่อยเงินกู้ ตั้งวงแชร์ หรือ เล่นแชร์ ตั้งแต่ช่วงที่คบหากับนายสุมธิศักดิ์ พูนขวัญ หรือ แด้ อายุ 35 ปี สามีที่ไม่ได้จดทะเบียรสมรส ซึ่งเป็น 1 ในเหยื่อที่เชื่อว่าถูกวางยาฆ่าใน จ.อุดรธานี ซึ่งหลักฐานสำคัญที่ทำให้ตำรวจเชื่อว่านางสรารัตน์ เกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาดังกล่าว เนื่องจากรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ทะเบียน 5กศ 7028 กรุงเทพมหานคร ที่นางสรารัตน์ ใช้เป็นพาหนะขณะถูกจับกุมตัวได้ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ มีการสวมแผ่นป้ายทะเบียนปลอม

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ในกรณี น.ส.สาวิตรี บุตรศรีรักษ์ หรือ หนิม อายุ 40 ปี เหยื่อรายใหม่ ซึ่งเป็นรายที่ 14 ที่พบเสียชีวิตลักษณะเดียวกันในพื้นที่ จ.มุกดาหาร โดยตำรวจได้สอบปากคำ ด.ต.นิติพนธ์ นุชิต อายุ 41 ปี สังกัด บช.สตม. หรือ นายต้า สามี เบื้องต้นทราบว่า น.ส.สาวิตรี เริ่มรู้จักกับ นางสรารัตน์ จากการลงทุนแชร์ สอดคล้องกับข้อมูลการติดต่อของ นางสรารัตน์ กับ น.ส.สาวิตรี ที่ช่วงก่อนเสียชีวิตมีการติดต่อหากันอยู่บ่อยครั้ง ก่อนนางสรารัตน์ จะส่งของมาให้อ้างเป็นยาลดน้ำหนัก ชนิดแคปซูล เพราะเห็นว่า น.ส.หนิง เพิ่งคลอดลูก แต่ครั้งแรกที่ส่งมาไม่สามารถรับประทานได้ เนื่องจากแคปซูลยาละลาย ก่อนจะมีการส่งซ้ำมาให้ใหม่อีกครั้ง กระทั่งมีการรับประทานแล้วเสียชีวิตในเวลาต่อมา เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2565 โดยสาเหตุการเสียชีวิต ใบชันสูตรมีการระบุว่า มีโพแทสเซียมในเลือดปริมาณสูง ซึ่งมูลเหตุของคดีนี้ เจ้าหน้าที่มุ่งไปที่การฆ่าล้างหนี้ เนื่องจาก นางสรารัตน์ ติดหนี้ น.ส.สาวิตรี เป็นเงินหลักแสนบาท สอดคล้องกับพฤติกรรมคดีอื่นๆ ที่ค่อนข้างชัดเจนว่า ผู้ที่เป็นเจ้าหนี้ที่นางสรารัตน์ ติดเงินอยู่นั้น มักจะเสียชีวิตในลักษณะเดียวกัน

นอกจากนี้ จากการสอบปากคำ น.ส.จอย พยานบุคคลที่เป็นเพื่อนสนิทกับ น.ส.สาวิตรี ยังทราบว่า เมื่อวันที่ 14 เม.ย. หลัง นางสรารัตน์ ก่อเหตุวางยาฆ่า น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือ ก้อย เท้าแชร์ อายุ 33 ปี จนเสียชีวิต นางสรารัตน์ ได้โทรศัพท์และส่งข้อความมาหา น.ส.จอย เพื่อสอบถามขั้นตอนการติดตามหาคนหายของเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกด้วย

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ขณะเดียวกันในวันนี้ (27 เม.ย.) ตำรวจกองปราบฯ ยังได้ติดต่อไปหา น.ส.นก เจ้าหน้าที่พยาบาลโรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านธนบุรี พยานบุคคลสำคัญอีกรายหนึ่ง มาให้ปากคำในฐานะพยาน เพื่อซักถามประเด็นรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลกลุ่มวงแชร์ ของ นางสรารัตน์ โดยมีกำหนดนัดหมายเดินทางมาเข้าให้ปากคำในวันที่ 30 เม.ย. ที่จะถึงนี้