จากกรณี นางสรารัตน์ รังสิวุฒาพรณ์ หรือ “แอม” ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมต่อเนื่องโดยมีผู้เสียชีวิตนับ 10 ราย โดยหนึ่งในนั้นคือ นายแด้ นายสุทธิศักดิ์ พูนวงส์ อายุ 35 ปี ซึ่งคบกันเป็นสามีภรรยากัน และเป็น ชาว อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เดินทางมาทำธุรกิจปล่อยเงินกู้ที่ จ.อุดรธานี ก่อนจะเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ โดยฝ่ายหญิงเดินทางมาหาฝ่ายชาย ซึ่งรับปากจะจัดงานวันเกิดให้ ก่อนจะแวะไปทำบุญที่ คำชะโนดเพื่อทำบุญวันเกิด พอมาถึงปั๊มน้ำมัน ปตท.โคกสูง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี นายแด้เกิดเป็นลมล้มฟุบข้างห้องน้ำ ต่อมากู้ภัยส่งเสริมธรรม จุดบริการหนองหานได้เข้ามาช่วยนำส่ง รพ.หนองหาน หมอรักษาตามอาการเบื้องต้น อนุญาตให้ญาติพากลับบ้านได้ แต่สุดท้าย นายแด้ ก็เสียชีวิตในเวลาต่อมาที่บ้านพักใน จ.อุดรธานี ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นางราตรี ปะเขนัง อายุ 45 ปี แม่บ้านที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.โคกสูง และเป็นคนช่วยชีวิต นายแด้ ออกมาจากห้องน้ำจนรอดตายชั่วขณะนี้ พร้อมกันนี้พาผู้สื่อข่าวเดินไปดูห้องน้ำที่ห้องหมายเลข 3 ซึ่งนายแด้จะมาใช้ห้องน้ำนี้ประจำว่า จำได้วันนั้นตอนเช้า 12 มี.ค. 66 ขณะที่ตนเองกำลังทำความสะอาดอยู่ห้องน้ำชาย บริเวณอ่างล้างมือทางเข้าห้องน้ำ ได้ยินเสียงคนที่ใช้ห้องน้ำหมายเลข 3 เสียงเบ่งถ่ายดัง ก่อนจะหายใจหอบแรงหลายครั้ง ประมาณ 10 นาที ก่อนที่เสียงจะเงียบไป ตอนนั้นตนตกใจเข้าไปถามว่า ลูกค้าเป็นอะไรหรือไม่ ก็ไม่ได้ยิงเสียงตอบกลับบมา จึงขออนุญาตก้มส่องดูทำให้พบว่า นายแด้ อยู่ในลักษณะหน้าคว่ำลงพื้นห้องน้ำ จึงตัดสินใจบิดประตูเข้าไปช่วยเหลือ มีการเรียกเด็กปั๊มให้มาช่วยล้างก้นใส่กางเกงเรียบร้อย
นางราตรี เล่าอีกว่า จากนั้นตนและเด็กปั๊มได้พา นายแด้ มานั่งข้างห้องน้ำ ก่อนถามไปว่าเป็นอะไรทำไมถึงวูบในห้องน้ำได้ ตอนนั้นภรรยาของนายแด้ สวมใส่เสื้อสีเหลืองเดินมาดู เอามือสองข้างตบเบาๆ ที่ใบหน้า ถามอาการว่าเป็นอะไรมากหรือไม่ และบอกว่าอย่าหลับนะ แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น พอรถกู้ภัยมา นางแอม ก็บอกว่าถ้าดีขึ้นก็ไม่ต้องไป รพ.แล้วจะพากลับบ้าน ตนก็ช่วยพยุงพาไปรถ ปรากฏว่า นายแด้ อาเจียนออกมาอีก ตนจึงถามไปว่าเมื่อเช้ากินอะไรมา ฝ่ายภรรยากลับบอกว่า ป้าอย่าไปซักเขามาก เขากำลังเหนื่อยอยู่ จังหวะนั้น นายแด้ จึงพูดสวนมาว่า “…พี่กินยาริดสีดวงที่เธอให้มานั่นแหละ…”
เหตุการณ์นี้ทำให้ตนรู้สึกสงสัย เพราะฝ่ายชายอาการหนัก แต่ฝ่ายหญิงกลับบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก ไม่อยากไป รพ. จะพาขึ้นรถกลับบ้านท่าเดียว ทั้งที่ตนและกู้ภัยอยากให้พาไปพบแพทย์รักษาอาการน่าจะดีกว่า ภายหลังมารู้ข่าวว่าฝ่ายหญิงคือ “แอม ไซยาไนด์” ทำให้รู้สึกสงสารคนตายเป็นอย่างมาก.
