เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 19 มิ.ย.พ.ต.ท.ประสิทธิ์  เมฆษา สารวัตรสอบสวน สภ.เมือง สมุทรปราการ  ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ภายในบ้านเลขที่ 30 / 3 หมู่ 5 ซอยอัศวนนท์ 6/2 ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ มีทรัพย์สินสูญหายไปหลายรายการ  และมีภาพของกลุ่มคนร้ายที่มาก่อเหตุที่กล้องวงจรปิดบันทึกพฤติกรรมเอาไว้  หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว มีรั้วรอบขอบชิด ที่ประตูรั้วเหล็กหน้าบ้านพบว่าถูกผู้ก่อเหตุตัดแม่กุญแจออกไป  และข้าวของภายในบ้านถูกรื้อค้นจนกระจัดกระจาย โดยเฉพาะในห้องพระ ได้พบว่ามีพระบูชาขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว ซึ่งเป็นพระเก่าแก่ที่ประเมินค่าไม่ได้กว่า 10 องค์ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะหมู่บูชาหายในห้องพระได้หายไป เหลือเพียงร่องรอยทิ้งของไว้ให้ดูต่างหน้า ส่วนทรัพย์สินอื่น ๆ อีกหลายรายการที่ผู้ก่อเหตุลักไป

ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งอยู่ภายในซอยที่เกิดเหตุพบว่า มีคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ 4 คน ได้ใช้รถก๋งไม่ทราบยี่ห้อสีเงิน ใช้ผ้าปิดคุมแผ่นป้ายทะเบียนเอาไว้ ขับเข้ามาทางปากซอย มาจอดส่งคนลงที่บริเวณหน้าบ้านเกิดเหตุ ก่อนที่มีชาย 3 คน ลงมาจากรถและเข้าไปก่อเหตุ งัดกุญแจประตูรั้วเข้าไปลักทรัพย์ ภายในบ้านหลังดังกล่าว โดยที่คนร้ายอีก 2 คนขับรถวนไปมาอยู่ภายในซอยดังกล่าว ก่อนที่จะมาจอดที่หน้าบ้านที่เกิดเหตุและลงมาช่วยกันขนทรัพย์สินมาใส่ท้ายรถ ก่อนที่จะพากันขึ้นรถขับหลบหนีไปทางถนนศรีนครินทร์ 

ขณะที่นางนวรัตน์  บุญสถิต อายุ 50 ปี ลูกสาวเจ้าของบ้านหลังที่เกิดเหตุ เล่าว่า  ปกติบ้านหลังนี้พ่อและแม่จะพักอาศัยอยู่เพียงแค่ 2 คน แต่เมื่อประมาณ 2-3 สัปดาห์ พ่อและแม่ ได้เดินทางไปรักษาอาการป่วยที่ จ.ชียงใหม่ จึงได้ปิดบ้านเอาไว้โดยที่ฝากให้ข้างบ้านช่วยดูแลบ้านให้ ส่วนตนพักอาศัยอยู่กับครอบครัวที่บ้านพักในย่านบางเขน และเมื่อสองวันก่อนตนได้เดินทางไปอาการป่วยของพ่อที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนที่พ่อตนให้ช่วยดูแลให้ได้โทรศัพท์มาบอกว่า บ้านถูกคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์สินในบ้าน เมื่อวานนี้ ( 19 มิ.ย.) ตนจึงรีบเดินทางกลับมาดู ก็พบว่าข้าวของในบ้านถูกรื้อค้นจนข้าวของกระจัดกระจาย และพระบูชาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะหมู่บูชา ก็หายไปกว่า 10 องค์  เมื่อไปขอดูกล้องวงจรปิดข้างบ้านพบว่าเมื่อเวลาประมาณ 03.30 น วันที่ 17 มิถุนายน ได้มีคนร้ายเข้ามาก่อเหตุดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวนางนวรัตน์ ผู้เสียหายมาทำการสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน มาเข้าเก็บหาร่องรอยของคนร้าย เพื่อเป็นแนวทางติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดีต่อไป