เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 2 พ.ค. ที่ รอยัลพารากอนฮอลล์ ชั้น 6 ห้างสยามพารากอน กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงาน เวที “สงคราม 9 พรรค THE LAST WAR” โดยความร่วมมือ 2 สื่อค่ายยักษ์ใหญ่ “เดลินิวส์ x เครือมติชน” จัดระดม 9 ตัวแทนคนรุ่นใหม่ (Young Blood) เสนอมุมมองสดใสขับเคลื่อนประเทศไทยในอนาคต พร้อมด้วยขุนพลขุนศึกตัวตึงและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จาก 9 พรรคการเมืองมาประชันนโยบาย ดีเบตเข้มข้น การเมือง เศรษฐกิจ สังคม เพื่อคนไทยทั้งประเทศได้นำไปวิเคราะห์ด้วยตัวเอง ก่อนไปใช้สิทธิตัดสินใจในวันเลือกตั้ง 14 พ.ค. นี้

โดยบรรยากาศเวที “Young blood” ประกอบด้วย สิริลภัส กองตระการ พรรคก้าวไกล, ดร.อาชวิทธิ์ เจิงกลิ่นจันทน์ พรรคชาติไทยพัฒนา, สกาวใจ พูนสวัสดิ์ พรรคเพื่อไทย, เมธี อรุณ พรรคประชาธิปัตย์, อิทธิเดช สุพงษ์ พรรคภูมิใจไทย, วิเวียน จุลมนต์ พรรคชาติพัฒนากล้า, ระพีพัฒน์ สุเมธโชติเมธา พรรคพลังประชารัฐ, ปณิธาน ประจวบเหมาะ พรรคไทยสร้างไทย, รัดเกล้า สุวรรณคีรี พรรครวมไทยสร้างชาติ 9 ตัวแทนคนรุ่นใหม่ จาก 9 พรรคการเมือง

ส่วนนายอิทธิเดช สุพงษ์ ผู้สมัครเบอร์ 9 พรรคภูมิใจไทย ระบุว่า พรรคการเมืองในอุดมคติต้องเป็นพรรคการเมืองที่มีความคิด มีประสบการณ์ และมีศักยภาพในการทำทุกอย่างให้เป็นไปได้ และพรรคการเมืองนั้นก็คือพรรคภูมิใจไทย ภูมิใจไทยจะพาประเทศไทยข้ามความขัดแย้ง สร้างทางออกและสร้างทางเลือกให้กับประชาชน เราสามารถเป็นผู้นำและผู้ทำให้สิ่งเหล่านี้ประสบความสำเร็จได้ โดยนโยบายจะเน้นการตั้งหลัก ฟื้นฟู และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่นโยบายขายฝัน นโยบายพรรคเน้นสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน นโยบายที่เป็นเรือธงคือนโยบายพักหนี้ 3 ปี 1 ล้าน และเงินกู้ฉุกเฉิน 50,000 บาท เพราะเข้าใจดีว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่มีอำนาจต่อรองกับสถาบันการเงิน

นายอิทธิเดช ยังกล่าวถึง นโยบายที่ลดภาระค่าพลังงานด้วยนโยบายกินดีอยู่ดี โดยมีการติดตั้ง Solar Roof ให้ทุกครัวเรือน ซึ่งจะช่วยลดค่าไฟฟ้าได้อย่างน้อย 450 บาท พ่วงกับการรับสิทธิซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในราคา 6,000 บาท เป็นระยะเวลา 60 งวด 100 บาทต่องวด ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดค่าน้ำมัน นอกจากนี้ ยังมีนโยบายสร้างความเข้มแข็งให้ท้องถิ่น ด้วยการกระจายอำนาจไปสู่ความเจริญ จากนโยบายที่ว่าภาษีบ้านเกิดเมืองนอน โดยประชาชนสามารถจ่ายภาษีให้กับจังหวัดที่เราต้องการพัฒนาได้ อีกทั้งสิ่งที่ตนจะผลักดันหากได้เป็น ส.ส. คือ ส่งเสริมการเข้าถึงสิทธิในการเข้าถึงสมบัติและภูมิปัญญาไทย โดยเฉพาะสมุนไพร ต้องยกระดับไปสู่สินค้ามีมูลค่าเพิ่ม เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ทางการแพทย์และสุขภาพ

ด้านนายเมธี อรุณ ผู้สมัครเบอร์ 2 พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ตนเคยเล่นคอนเสิร์ตคนเป็นหมื่น แต่ไม่เคยตื่นเต้นขนาดนี้มาก่อน วันนี้ที่มาใส่เสื้อพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเชื่อว่าวันไหนที่ประเทศไทยมีวิกฤติ ประชาธิปัตย์จะมาช่วยแก้ปัญหาอยู่เสมอ ด้านนโยบายจะยังคงผลักดันให้เด็กมีคุณภาพสูงขึ้น คือ นโยบายนมโรงเรียน อาหารฟรี เป็นนโยบายที่มีเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีอยู่ถึงวันนี้ ส่วนเรื่องผู้สูงอายุ พรรคประชาธิปัตย์ได้วางโครงสร้างแล้วว่า ต้องให้เบี้ยคนสูงวัยตั้งแต่สมัย 30 ปีที่แล้ว ซึ่งทั้งหมดนี้คืออดีตที่เป็นจุดเริ่มต้นของพรรคประชาธิปัตย์ ฉะนั้นเงินภาษีทุกบาทพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลสวัสดิการอย่างเต็มที่ พรรคหวังนโยบายภายหน้าจะเน้นเรื่องการศึกษาสร้างคนจริงๆ จะส่งเสริมให้เรียนฟรีถึงปริญญาตรี และสิ่งที่อยากทำอีกอย่าง คือการสร้างอัตลักษณ์ให้ภูมิภาค โดยการสร้าง soft power และสร้างมูลค่าให้กับแต่ละภูมิภาค

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างที่ 9 ตัวแทนคนรุ่นใหม่ของแต่ละพรรค ได้ปราศรัยถึงนโยบายพรรค เหล่าบรรดากองเชียร์ต่างร่วมกันส่งเสียงเชียร์สนั่น พร้อมชูป้ายสนับสนุนผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก.