ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้วในช่วงนี้ ทำให้สภาพป่าชุมชนตลิ่งชัน ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง เนื่องจากต้นไม้นานาพันธุ์เริ่มแตกยอดใบอ่อนสะพรั่งทั่วผืนป่า ซึ่งใบอ่อนของต้นไม้เป็นที่ชื่นชอบของแมลงนานาชนิด โดยเฉพาะแมงอีนูน ที่จะออกมาหากินยอดอ่อนของต้นไม้ และผสมพันธุ์ตามยอดไม้ ที่ในช่วงนี้จะเริ่มพบบ้างแล้ว ชาวบ้านในพื้นที่จึงพากันออกมาหาจับแมงอีนูนเพื่อนำกลับไปประกอบอาหารเลี้ยงครอบครัว หากได้จำนวนมา ก็จะนำไปขายให้พ่อค้าที่มารับซื้อถึงที่ เพื่อสร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัว โดยราคาของแมงอีนูนจะสูงถึง กก. ละ 250-300 บาท มีราคาสูงกว่าเนื้อหมูที่ขายตามท้องตลาด

โดยวิธีการจับแมงอีนูนของชาวบ้าน ก็จะทำกับแบบง่ายๆ คือ ใช้ไฟฉายส่องไปตามต้นไม้ขนาดเล็กที่เพิ่งแตกยอดใหม่ เพราะแมงอีนูนจะพากันออกมาจากรูเพื่อหาอาหารและผสมพันธุ์ เกาะอยู่ตามใบไม้อ่อน เมื่อเจอก็จะใช้มือจับ หรือหากอยู่สูง ก็จะมีอุปกรณ์ช่วยจับคือการใช้ขวดน้ำอัดลมตัดก้นขวดทิ้ง แล้วนำไปต่อกับไม้ให้ได้ความยาวตามที่ต้องการนำไปสอยแมงอีนูนให้ร่วงตกใส่ขวดน้ำ แล้วนำมาใส่อุปกรณ์ที่เตรียมไว้ ซึ่งในช่วงนี้แมงอีนูนจะมีมากเป็นพิเศษ และจะออกมาหากินหรือผสมพันธุ์กันเป็นช่วงเวลา คือในช่วงหัวค่ำประมาณ 1-3 ทุ่มเท่านั้น ชาวบ้านหลายรายที่มีความชำนาญ จะสามารถหาแมงอีนูนได้วันละประมาณ 4-5 กก. เลยทีเดียว ซึ่งหากนำไปจำหน่าย ก็จะมีรายได้เสริมกว่าหนึ่งพันบาทต่อวันเลยทีเดียว

ทางด้าน นางออระยา เหลืองกระโทก กำนันตำบลจระเข้หิน กล่าวว่า ชาวบ้านที่จะเข้าไปหาของป่ารวมไปถึงแมงอีนูน จะมีกฎกติการ่วมกันและถือปฏิบัติมายาวนาน คือ จะต้องเก็บหาอย่างพอเพียง ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมของผืนป่า อย่างการหาแมงอีนูนนั้น จะต้องใช้วิธีการจับด้วยมือเท่านั้น ไม่ควรที่จะไปขุดหาจนถึงรังใต้ดิน เพื่อให้ได้มีโอกาสขยายพันธุ์ต่อไป อีกทั้งการขุดหารังแมงอีนูนนั้น จะส่งผลกระทบต่อต้นกล้าไม้ขนาดเล็ก ซึ่งอาจจะมีการขุดโดนรากขาดและทำให้กล้าไม้ตายได้