เมื่อวันที่ 20 พ.ค. นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยผลการสอบสวนกรณีเกิดอุบัติเหตุคานคอนกรีตของโครงการทางพิเศษ (ด่วน) สายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก สัญญาที่ 2 ขณะติดตั้งบนถนนพระราม 2 ถล่มว่า จากการเข้าตรวจสอบอุปกรณ์และวัสดุที่เป็นหลักฐานในที่เกิดเหตุร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย พบว่า สาเหตุที่ก่อให้การเกิดอุบัติเหตุมี 2 สาเหตุ ดังนี้ 1.วัสดุ PT Bar (เหล็กรับแรงดึงสูง) ที่นำมาใช้งานมีความบกพร่อง ทำให้ไม่สามารถรับน้ำหนักชิ้นงานที่ยกได้ และขาดลงมา 

ซึ่งถึงแม้ว่าการยกชิ้นงานนี้ใช้ PT Bar 4 เส้น และสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 4 เท่าของน้ำหนักชิ้นงาน แต่อุปกรณ์ PT Bar นั้น หากใช้ซ้ำหลายๆ ครั้ง อาจเกิดการล้าในเนื้อวัสดุ หรืออาจมีการทุบกระแทกให้มีตำหนิ (Flaw) หรือเกิดรอยแตกภายในเนื้อวัสดุ (Rupture) อันมีผลทำให้ให้เกิดการวิบัติของวัสดุเมื่อรับแรงดึงสูงจากการหิ้วชิ้นงานได้ ส่วนสาเหตุว่าทำไมเกิดการล้าหรือมีตำหนิในวัสดุนั้น อยู่ระหว่างการนำ PT Bar ที่ขาดไปทดสอบในห้องปฏิบัติการต่อไป

และ 2. ผู้ปฏิบัติงานไม่ปฏิบัติงานก่อสร้างให้เป็นไปตามขั้นตอนการก่อสร้าง (Method Statement) อย่างถูกต้อง และครบถ้วน ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า มีการดำเนินการถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในขณะที่รอพนักงานสอบสวนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้น กทพ. ได้มีมาตรการยกระดับความปลอดภัยอีกขั้น (Double Safety) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในทุกโครงการก่อสร้างที่อยู่ในพื้นที่ที่มีการจราจรสัญจรไปมา ทั้งโครงการในปัจจุบัน และในอนาคต ทั้งนี้ กทพ. ได้หารือร่วมกับกรมทางหลวง (ทล.) เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา เรื่องมาตรการความปลอดภัยในการก่อสร้างบนถนนพระราม 2 โดยได้มีการกำหนดมาตรการเพิ่มเติมในระยะสั้น ดังนี้  

1.กำหนดให้มีการทดสอบวัสดุ PT Bar ด้วยวิธี Ultrasonic Testing (UT) หรือ Magnetic Particle Testing (MT) ทุก ๆ 30 span (ช่วงเสา) จากเดิมตรวจสอบทุก ๆ 50 span 2.ขั้นตอนการดำเนินงานติดตั้งคานคอนกรีตสำเร็จรูป (Segment) ทุกกิจกรรมจะให้ดำเนินการเฉพาะช่วงที่มีการปิดกั้นการจราจร และช่วงเวลากลางคืน และมีการปิดเบี่ยงจราจรไปแล้วเท่านั้น จนกว่าขั้นตอนการดึงลวดจะแล้วเสร็จ เพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชนโดยการประชาสัมพันธ์ให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนทราบล่วงหน้า

3. ให้ผู้รับจ้างโชนที่เกิดเหตุทำการเปลี่ยนชุด PT Bar ใหม่ยกชุด พร้อมตรวจสอบใบรับรองวัสดุก่อนออกใบรับรองก่อนเริ่มปฏิบัติงาน 4.เพิ่มการติดตั้งระบบ Sensor อุปกรณ์หลักที่ใช้ในการยกแขวน Segment เพื่อการ Monitor ระบบการทำงาน และแจ้งเตือนไม่ให้ทำงานเกิดขีดจำกัดของอุปกรณ์การยก และ 5.ติดตั้งกล้อง CCTV เพื่อตรวจสอบจุดเสี่ยงในการทำงานของอุปกรณ์โครงสร้าง Launching

นอกจากนี้ กทพ. ได้กำหนดมาตรการความปลอดภัยระยะยาว คือ การบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (วสท./สภาวิศวกร) ทำการศึกษากรณีการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว เพื่อนำไปสู่การออกแบบระบบการยกติดตั้ง Segment ที่เป็นมาตรฐานเดียวกันในอนาคต และมาตรการผลักดันการยกระดับความรู้ผู้รับจ้าง และผู้ควบคุมงานให้มีการฝึกอบรม เพื่อขึ้นทะเบียนและมีการรับรองเพื่อให้สามารถปฏิบัติงานในโครงการขนาดใหญ่ของกระทรวงคมนาคมได้

นายสุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการเยียวยาผู้เสียหายทั้ง 5 ราย และผู้เสียชีวิต 1 รายนั้น ขณะนี้ได้ข้อยุติทางด้านความเสียหายด้านทรัพย์สินหมดแล้ว และอยู่ระหว่างการเจรจาค่าทำขวัญ และค่าเสียโอกาสของเจ้าของรถ 1 ราย ซึ่ง กทพ. ได้สั่งการให้ผู้รับจ้างเยียวยาญาติผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บ และเจ้าของรถที่ได้รับความเสียหายให้เหมาะสม ยุติธรรม และได้รับความเป็นธรรมที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับงานสัญญาที่ 2 สร้างทางยกระดับจากเซ็นทรัลพระราม 2-รพ.บางปะกอก 9 มีกิจการร่วมค้า ซีทีบี ประกอบด้วย บริษัท China Harbour Engineering Company Limited, บริษัท ทิพากร จำกัดและบริษัท บุรีรัมย์ธงชัยก่อสร้าง จำกัด เป็นผู้รับจ้าง โดยงานในส่วนที่เกิดเหตุนั้น บริษัท ทิพากร เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งทาง กทพ. ยังคงให้หยุดปฏิบัติงานจนกว่าจะสามารถปฏิบัติตามมาตรการยกระดับความปลอดภัยอีกขั้นได้อย่างครบถ้วนก่อน.