เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ อบต.โนนสัง ต.โนนสัง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ นายทองวรรณ จิตโชติ นายก อบต.โนนสัง เปิดเผยว่า วานนี้ (23 พ.ค.) ได้เกิดมีลมพายุฝนพัดถล่มอย่างรุนแรงในเขตบ้านโนนสัง ต.โนนสัง ซึ่งในขณะที่พายุกำลังพัดโหมกระหน่ำอย่างรุนแรงนั้นได้มีฟ้าผ่าหลายครั้งด้วย หลังฝนหยุดตก ตนจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ อบต.โนนสัง ออกสำรวจความเสียหายบ้านเรือนและทรัพย์สินของชาวบ้าน พบว่ามีวัวถูกฟ้าผ่าตายจำนวน 6 ตัว โดยวัวทั้งหมดเป็นของ นายสุบัน ตุนา อายุ 75 ปี ชาวบ้านโนนสัง หมู่ 2 ซึ่งนายสุบัน และญาติพี่น้องได้พากันมาดูวัวของตนที่ถูกฟ้าผ่าตายด้วยอาการเศร้า เพราะว่า วัวทุกตัวกำลังโตเต็มที่ และหากขายก็จะได้เงินประมาณ 200,000 บาท

นายทองวรรณ เปิดเผยต่อว่า ตนมีความเห็นใจและสงสารชาวบ้านที่ได้รับความสูญเสียในครั้งนี้เป็นอย่างมาก แต่ว่าตามระเบียบของทางราชการแล้ว ทาง อบต.โนนสัง ไม่สามารถที่จะใช้เงินของทางราชการช่วยเหลือวัวที่ถูกฟ้าผ่าตายได้ ดังนั้น ตนจึงได้บริจาคเงินส่วนตัวซื้อซากวัวของนายสุบัน จำนวน 3 ตัว ตัวละ 10,000 บาท รวมเป็นเงิน 30,000 บาท เพื่อเป็นการช่วยเหลือเยียวยาบรรเทาความเดือดร้อนของนายสุบัน ที่ได้รับความเสียหายในครั้งนี้ ส่วนซากวัวที่เหลืออีก 3 ตัว นายสุบัน ได้นำเอาไปชำแหละแจกจ่ายญาติพี่น้องและชาวบ้านโนนสังต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในห้วงเวลาเดียวกันนี้ ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองอย่างหนักที่บริเวณบ้านหนองเหล็ก หมู่ 3 ต.ลุ่มระวี อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ ต่อมาได้มีฟ้าผ่าวัวตายอีกจำนวน 5 ตัว ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายไม่น้อยกว่า 150,000 บาท

ด้าน นายสังคม พลยางนอก เจ้าของวัว เล่าว่า ก่อนฟ้าผ่ามีฝนตกลงมาหนัก ตัวเองได้นำวัวมาเลี้ยงผูกไว้ที่ต้นไม้ใหญ่กลางทุ่งนา และตนได้เข้ามาหลบฝนอยู่ที่กระท่อม ทันใดนั้นได้ยินเสียงเปรี้ยง 2 ครั้ง หลังสิ้นเสียงฟ้าผ่า พบว่าวัวที่อยู่กลางทุ่งนานั้นได้นอนล้มตายไปทั้งหมด 5 ตัวอย่างน่าเวทนา ยอมรับว่าน่ากลัวและเสียใจมาก ในช่วงเกิดเหตุตนเองก็ไม่คิดว่ารอดชีวิตมาได้ หลังจากนี้ตนจะไปทำบุญและอุทิศส่วนกุศลให้วัวที่ตายไป