เมื่อวันที่ 25 พ.ค. กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 1 (150/2566) ลงวันที่ 25 พ.ค. เวลา 17.00 น. แจ้งว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม จะเคลื่อนผ่านประเทศไทยและลงสู่อ่าวมะตะบัน ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ บริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

โดยมีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ ระหว่างวันที่ 27-30 พ.ค. 2566 ดังนี้ พื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขัง ได้แก่ ภาคกลาง 3 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร ได้แก่ นนทบุรี อ.เมืองนนทบุรี อ.ปากเกร็ด ปทุมธานี อ.คลองหลวง อ.ธัญบุรี สมุทรปราการ อ.เมืองสมุทรปราการ อ.บางพลี อ.บางเสาธง ภาคตะวันออก 4 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี อ.บ้านบึง อ.ศรีราชา อ.บางละมุง ระยอง อ.เมืองระยอง อ.แกลง อ.ปลวกแดง จันทบุรี อ.เมืองจันทบุรี อ.ขลุง อ.มะขาม อ.ท่าใหม่ อ.นายายอาม อ.เขาคิชฌกูฏ อ.โป่งน้ำร้อน อ.สอยดาว และตราด อ.บ่อไร่ อ.เขาสมิง อ.แหลมงอบ อ.คลองใหญ่ อ.เกาะช้าง อ.เกาะกูด และภาคใต้ 2 จังหวัด ได้แก่ ระนอง ทุกอำเภอ และ พังงา อ.เมืองพังงาน อ.คุระบุรี

พื้นที่เฝ้าระวังคลื่นลมแรง ภาคใต้ 6 จังหวัด ได้แก่ ระนอง อ.เมืองระนอง อ.สุขสำราญ อ.กะเปอร์ พังงา อ.เมืองพังงา อ.เกาะยาว อ.ทับปุด อ.ตะกั่วทุ่ง อ.ท้ายเหมือง อ.ตะกั่วป่า อ.คุระบุรี ภูเก็ตทุกอำเภอ กระบี่ อ.เมืองกระบี่ อ.คลองท่อม อ.เกาะลันตา อ.เหนือคลอง อ.อ่าวลึก ตรัง อ.กันตัง อ.สิเกา อ.ปะเหลียน อ.หาดสำราญ และสตูล อ.เมืองสตูล อ.ละงู อ.มะนัง อ.ทุ่งหว้า

กอปภ.ก. จึงได้ประสานจังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออก ภาคใต้ และกรุงเทพมหานคร รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก น้ำท่วมขัง และคลื่นลมแรง โดยกำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะการติดตามปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่แต่ละจุดอย่างใกล้ชิด รวมถึงเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักหรือบริเวณฝนสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัยได้ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีฝนตกหนักมีความเสี่ยงที่จะเกิดภัย ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการหน่วยงานที่รับผิดชอบประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าว ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับพื้นที่ที่มีสถานการณ์น้ำท่วมขัง ขอให้ระมัดระวังอันตรายจากกระแสไฟฟ้ารั่ว ในกรณีที่มีความเสี่ยงจะเกิดอันตรายให้ตัดกระแสไฟฟ้าทันที ทั้งนี้ ได้กำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที

สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์คลื่นลมแรง ให้จังหวัดออกประกาศหรือติดตั้งสัญญาณการแจ้งเตือนประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเล และแจ้งนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำทะเลในช่วงที่มีคลื่นลมแรงโดยเด็ดขาด พร้อมประสานกรมเจ้าท่า กองทัพเรือ ตำรวจน้ำ แจ้งเตือนการเดินเรือ โดยให้ชาวเรือ ผู้บังคับเรือ ผู้ประกอบการเดินเรือโดยสาร เดินเรือด้วยความระมัดระวังให้มากขึ้น และหากสถานการณ์ในพื้นที่มีแนวโน้มรุนแรง ให้พิจารณาห้ามการเดินเรือออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด

นอกจากนี้ ให้จังหวัดแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และแจ้งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด ตลอดจนประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชน ระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง.