เมื่อวันที่ 27 พ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุรถชนกันหลายคัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ บนทางด่วนอุดรรัถยา (ขาออก) ก่อนทางลงเมืองทองธานี ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจทางด่วน และเจ้าหน้าที่กู้ภัย

ที่เกิดเหตุอยู่บนทางด่วนอุดรรัถยา จากถนนแจ้งวัฒนะมุ่งหน้า อ.บางปะอิน จุดเกิดเหตุอยู่เหนือเมืองทองธานี พบรถบรรทุก 12 ล้อยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน 70-1174 นราธิวาส บรรทุกไม้มาเต็มคันรถ โดยมีนายสมศักดิ์ เจ๊ะอาซาน อายุ 37 ปี เป็นคนขับคันก่อเหตุ ใกล้กันพบรถยนต์ได้รับความเสียหายรวมทั้งหมด 6 คัน ทำให้เสียช่องทางการจราจร 2 ช่องทาง ซึ่งเหตุการณ์นี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 3 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงรีบนำส่งโรงพยาบาลกรุงไทย และโรงพยาบาลชลประทานปากเกร็ด เพื่อทำการช่วยเหลือ

ด้าน น.ส.ณัฐนิช ฉายอรุณ อายุ 42 ปี คนขับรถยี่ห้อโตโยต้า รุ่น ฟอร์จูนเนอร์ ป้ายแดง ซึ่งเป็นหนึ่งที่ในผู้ประสบเหตุถูกชนท้าย กล่าวว่า ในขณะขับรถมา กำลังรอลงทางด่วนเมืองทองธานี จู่ๆ รถสิบล้อก็พุ่งมาชนรถคันสีดำก่อน แล้วชนรถเก๋งสีขาว กระทั่งชนต่อเนื่องมาพุ่งชนรถคันของตน แล้วก็ชนต่อเนื่องคันที่อยู่ด้านหน้า เสียหายอีก 2 คัน โดยรถสิบล้อขับมาเร็วมาก

ขณะที่นายสมศักดิ์ เจ๊ะอาซาน อายุ 37 ปี คนขับรถบรรทุกคันก่อเหตุ อ้างว่า ขับมาตามช่องทางเลนซ้ายตามปกติ เพราะรถใหญ่ไม่สามารถไปวิ่งเลน 2 เลน 3 ได้อยู่แล้ว มาเจอจังหวะที่รถคันหน้าเขาจอดแล้วไม่ได้เปิดไฟเลี้ยว ก็พยายามเบรกมาเรื่อยๆ แต่เบรกไม่อยู่ เพราะรถหนัก โดยขับรถบรรทุกไม้มาจาก จ.นราธิวาส จะไปส่งปลายทางที่ จ.ร้อยเอ็ด

พ.ต.ต.ฐาปนพงษ์ พึ่งมี สว.จร.สภ.ปากเกร็ด กล่าวว่า เท่าที่สอบถามคนขับรถบรรทุกให้การว่า รถบรรทุกขับมาเลนซ้าย แล้วด้านหน้ามีรถเก๋งชะลอตัวเพื่อจะลงทางด่วนเมืองทอง โดยคนขับรถบรรทุก เขาพยายามเบรกและย้ำแล้วแต่เอาไม่อยู่ ก็เลยชนท้ายรถเก๋งคันแรก เป็นรถโตโยต้า สีเทา แล้วชนต่อเนื่องมาคันที่ 2 เป็นรถเก๋งรถโตโยต้า รุ่นสามห่วง สีขาว แล้วไปชนรถโตโยต้า รุ่น ฟอร์จูนเนอร์ และรถด้านหน้าอีก 2 คัน รวมทั้งหมด 6 คัน โดยเหตุการณ์นี้ มีคนเจ็บเล็กน้อย เจ็บปวดตามร่างกาย 2 คน มากับรถเก๋งสีน้ำตาลคันแรกที่ถูกพุ่งชน โดยมี 1 คน เป็นผู้ชายศีรษะแตก มากับรถเก๋งสีขาวที่ถูกพุ่งชนติดกับหน้ารถบรรทุก

หลังเกิดเหตุดังกล่าว ส่งผลให้การจราจรบนทางด่วนขาออกติดขัดยาวกว่า 5 กิโลเมตร โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยทางด่วนและตำรวจต้องเร่งเคลื่อนย้ายรถที่ประสบอุบัติเหตุ และทำความสะอาดพื้นที่จากเศษซากชิ้นส่วนของรถยนต์ที่ตกอยู่เกลื่อนถนน ก่อนที่จะเปิดการจราจรได้ตามปกติ ในเวลาเกือบ 17.00 น.