จากกรณีเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ กก.ดส.บช.น. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. เข้าตรวจค้นสถานบันเทิง ไดมอนด์ เคทีวี ภายในเมรีอาบอบนวด ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ จากการตรวจค้นพบนักเที่ยวชาวจีน จำนวน 48 คน เป็นหญิง 18 คน ชาย 30 คน เปิดห้องคาราโอเกะ 4 ห้อง ขณะกำลังจัดปาร์ตี้มั่วสุมเสพยาเสพติด พบของกลางยาเสพติด โคเคน, เคตามีน, ยาอี, แฮปปี้วอเตอร์ และอุปกรณ์การเสพจำนวนมากนั้น

ทลายปาร์ตี้ผับหรูชาวจีนมั่วสุมเสพยา ผงะห้องวีไอพีจ่ายหลักแสนมีดีเจส่วนตัว

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ที่สำนักงานตำรวแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ทราบว่าเป็นการพยายามปกปิด แต่เจ้าหน้าที่ได้เบาะแส กองบัญชาการตำรวจนครบาล จึงส่งตำรวจ ดส. ไปดำเนินการ ถือว่าเป็นผลงานการปฏิบัติ ใครจะทำผิดกฎหมายอะไรก็ตาม ถ้าเราได้เบาะแสจะดำเนินการไปตามที่เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งอย่างตรงไปตรงมา ถ้าใครปล่อยปละละเลย เราก็จะมีการลงโทษ อย่างเช่นที่ จ.ภูเก็ต ทราบว่ามีการจับกุมสถานบริการที่ไม่ได้รับอนุญาต ถ้าเป็นไปตามข้อเท็จจริงที่เปิดถึงเช้าต้องลงโทษ

ผู้สื่อข่าวถามว่ากลุ่มนักเที่ยวที่ถูกจับกุมมีส่วนเชื่อมโยงกับผับจินหลิงหรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า ยังไม่ได้ตรวจสอบขนาดนั้น ยังรอรับรายงานอยู่ ถามต่อว่าแต่ที่แน่ๆ ผลการตรวจพบยาเสพติด เจ้าของผับนำมาจำหน่ายให้กับนักเที่ยวหรือนักเที่ยวนำเขาไปเอง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ขอรอผลตรวจสอบนิดหนึ่ง ลักษณะเป็นการมั่วสุมเสพยาด้วย เป็นรูปแบบที่ต้องไปกวดขันเพิ่มเติม เชื่อว่าอนาคตอาจจะมีการลักลอบอีก เหมือนปกติสิ่งผิดกฎหมายอาจจะลักลอบจากสถานบริการไปอยู่ที่คอนโดฯ โรงแรม เจ้าหน้าที่ต้องหาข่าวการทำงาน ถ้าได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนแจ้งเบาะแสมา เจ้าหน้าที่ก็จะทำงานง่ายขึ้น

เมื่อถามว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ต้องพิจารณาหรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า ต้องดูว่าท้องที่ที่มีส่วนร่วมกับทาง ดส. หรือไม่ แต่ยังไม่ได้คุยละเอียดกับ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ขยายผล และสั่งให้ท้องที่อื่น ถ้ามีลักษณะนี้ให้รีบดำเนินการ ถึงแม้เมืองไทยเป็นเมืองท่องเที่ยว แต่ไม่อยากให้มั่วสุม ลักษณะการมั่วสุมที่ผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการนำนักท่องเที่ยวเข้ามาเล่นการพนัน มั่วสุมเสพยาเสพติด ส่วนการปิดสถานบริการในพื้นที่ของกองบัญชาการตำรวจนครบาลนั้น บช.น. มีอำนาจมีอำนาจในการพิจารณา

ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผกก.ดส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กก.ดส.บช.น. และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ตร. ร่วมกันทำบันทึกจับกุมนักท่องเที่ยวชาวจีน เพื่อเก็บพยานหลักฐานร่องรอยสถานที่เกิดเหตุ ในสถานบริการสถานบันเทิงไดมอนด์ เคทีวี อย่างละเอียดอีกครั้ง โดยให้พนักงานของร้านบางส่วน มาช่วยเป็นล่ามในการสื่อสารกับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน เพื่อสอบสวนในการทำบันทึกจับกุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร้านแห่งตั้งอยู่ภายในเมรี อาบอบนวด โดยในส่วนของอาบอบนวดนั้น ไม่ได้เปิดใช้บริการ โดยจะต้องเดินผ่านห้องโถงของเมรี อาบอบนวด เข้าไปข้างใน เมื่อเข้าไปจนสุดทางเดิน จะพบส่วนของประตูกระจกกั้นแบ่งเป็นห้องๆ โดยในส่วนของร้านไดมอนด์ เคทีวี ประดับด้วยไฟแอลอีดีประดับส่องสว่างตามเสา ตกแต่งภายในอย่างหรูหราทันสมัย ตกแต่งด้วยตุ๊กตานักบินอวกาศ มีทั้งสิ้น 8 ห้องสูท เรียงตามตัวเลขคือ ห้อง 801, 802, 805, 806, 803, 777, 888 และ 999 ที่ห้องโถงต้อนรับ มีเคาน์เตอร์รับแขก ที่ด้านหลังมีกระดานรายชื่อผู้มาจองห้องคาราโอเกะ 3 ห้อง คือห้อง 801, 803 , 805 และ 806

ทั้งนี้จากการตรวจสอบภายในห้องคาราโอเกะที่เปิดให้บริการ พบว่ามีข้าวของกระจัดกระจาย อาหารและเครื่องดื่มวางไว้อย่างไม่เป็นระเบียบ มีลูกโป่งสำหรับจัดปาร์ตี้กระจัดกระจายเต็มห้อง ภายหลังเคลียร์พื้นที่ เจ้าหน้าที่ยังสามารถรวบรวมพยานหลักฐานเป็นยาเสพติดได้อีกจำนวนมาก เบื้องต้นทราบว่านักท่องเที่ยวที่ถูกจับกุม ทั้งสี่ห้องนั้นไม่ได้เป็นกลุ่มเดียวกันแต่อย่างใด และในขณะที่ผู้สื่อข่าวเข้าไปบันทึกภาพ ก็พบนักเที่ยวชาวจีนถูกคุมตัวแยกกันไว้ตามห้องต่างๆ ซึ่งอยู่ในสภาพอิดโรย เนื่องจากยังไม่ได้พักผ่อนตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มนักเที่ยวดังกล่าวรู้จักกันโดยบังเอิญผ่านร้านอาหารย่านห้วยขวาง ขณะที่ไปนั่งรับประทานอาหารกัน จากนั้นไกด์ก็ได้แนะนำสถานที่เที่ยวให้ผู้ที่สนใจจะไปใช้บริการ ก่อนจะมีนักเที่ยวที่สนใจรวมตัวกันไปเที่ยวดังกล่าว

ต่อมา พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และมีรายงานว่า ในช่วงบ่าย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. จะเดินทางเข้ามาที่เกิดเหตุด้วย