เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ที่ สภ.แก่งคอย จ.สระบุรี พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 แถลงข่าวการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ ของกลางยาบ้า 8 ล้านเม็ด มูลค่าราว 50 ล้านบาท โดย พล.ต.ท.จิรพัฒน์ เปิดเผยว่า จากการสืบสวนขยายผลจับกุมแก๊งยาเสพติด ทำให้ทราบว่า น.ส.เจนจิรา หรือ เค้ก สนามชัย ทำหน้าที่จัดหาทีมลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อนำไปส่งมอบให้กับนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคกลาง และภาคใต้ ซึ่งเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ที่ผ่านมา จะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดโดยใช้รถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ เป็นรถขนยาเสพติด และรถอีซูซุ MU-X สีน้ำตาล เป็นยานพาหนะในการสำรวจเส้นทาง โดยจะขับมาตามถนนโชคชัย มุ่งหน้าแยกลำพระเพลิง ต.งิ้ว อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.สระบุรี ตรวจสอบจนพบรถยนต์ทั้งสองคัน จึงได้สะกดรอยติดตามไป แต่กลุ่มผู้ต้องหาได้ไหวตัวและแยกย้ายกันหลบหนี โดยหลบเลี่ยงการใช้ถนนสายหลัก (มิตรภาพ) แต่หันไปใช้ถนนสายรองแทน (อดิเรกสาร)

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามกลุ่มทีมลำเสียงดังกล่าวได้ทัน และสามารถควบคุมผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ไว้ได้ ที่บริเวณสวนผักริมแม่น้ำป่าสัก หมู่ 1 ต.ท่าตูม อ.แก่งคอย และที่วัดลาดเขาปูน หมู่ 8 ต.บ้านแก้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี ผลการตรวจค้นและยึดของกลาง 1.ยาบ้า 17 กระสอบ รวม 8 ล้านเม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ 2. รถยนต์ยี่ห้อโตโยตัา ฟอจูนเนอร์ สีดำ (ใช้ลำเลียงยาเสพติด) 3.รถยนต์อีซูซุ MU-X สีน้ำตาล ที่ใช้สำหรับสำรวจเส้นทาง สอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายทุนไม่ทราบชื่อ ได้ค่าจ้างคนละ 4 หมื่นบาท จึงแจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 5 คนว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท (ยาบ้า) หรือเมทแอมเฟตามีนไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือมีไว้เพื่อการค้าฯ ดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ท.จิรพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายนี้ สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ ตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรีได้มีการจับกุมนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ ทั้งยาบ้า (21 เม.ย. 66) และยาไอซ์ (14 พ.ค. 66) ติดต่อกันหลายครั้ง และ 2 ครั้งหลังสุด เป็นขบวนการเดียวกัน เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามความเคลื่อนไหว จนกระทั่งสามารถไล่ล่าติดตามจับกุมได้ในครั้งนี้ ซึ่งยาเสพติดดังกล่าวหากแพร่กระจายสู่ท้องตลาด จะมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 50 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนสอบสวนขยายผลถึงผู้ร่วมในขบวนการค้ายาเสพติด เพื่อดำเนินการตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการทำความผิดต่อไป.