“มองไกล เห็นใกล้” เหตุการณ์ครั้งนี้ ผู้ใหญ่หลายคนลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย และออกคำสั่งมากมาย ทั้งการดำเนินคดี “เจ้าของโรงงาน” ทั้งการเยียวยาประชาชน ทั้งเร่งตรวจสอบโรงงานผลิต-จัดเก็บพลุในพื้นที่อื่นๆ หวัง “ล้อมคอก” ไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้อีก

ย้อนกลับไปก่อนเกิดเหตุที่ จ.นราธิวาส ไม่กี่วัน มีเหตุโรงงานผลิตพลุ-ดอกไม้ไฟที่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ระเบิด พบผู้บาดเจ็บ 10 ราย โดย 1 ในผู้บาดเจ็บเป็นเด็กน้อยวัย 2 ขวบ บ้านพักเสียไม่ต่ำกว่า 10 หลัง สาวข้อมูลย้อนหลังกลับไป เมื่อปลายปี 2555 โรงงานแห่งนี้ก็เคยมีเหตุระเบิดเช่นกัน ครั้งนั้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย

ขณะที่ช่วงปลายปี 2561 ในพื้นที่ อ.ดอยสะเก็ด มีบ้านพักหลังหนึ่ง ลักลอบผลิตพลุ-ดอกไม้ไฟ เพื่อจำหน่ายในงานศพ และเกิดเหตุระเบิดขึ้น มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ครั้งนั้นผู้หลักผู้ใหญ่ในเชียงใหม่ ออกโรงกำชับให้บรรดาข้าราชการชั้นผู้น้อย ยกระดับการตรวจตราแหล่งผลิตพลุเข้มข้นขึ้น เพื่อความปลอดภัย

วันเวลาผ่านไปยังไม่ครบ 5 ปี เหตุการณ์เดิมๆ เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอ-จังหวัดเดิม

อีกเหตุโศกนาฏกรรมลักษณะคล้ายกันที่ไม่กล่าวถึงคงไม่ได้คือ ช่วงเดือน ต.ค. 2547 กับเหตุโรงงานพลุประทัดดอกไม้ไฟย่านเขตหนองจอก กทม. ระเบิด ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บ 7 ราย และปีเดียวกันเดือน ต.ค. 2547 พื้นที่ ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงาน “บุญเหลือดอกไม้ไฟ” โดยไม่มีใบอนุญาต ได้เกิดเหตุระเบิดมีผู้เสียชีวิตถึง 14 ราย บ้านเรือนประชาชนเสียหายนับสิบหลังคาเรือน

โดยโรงงานแห่งนี้เคยเกิดเหตุระเบิดมาแล้ว มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ครั้งนั้นเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมโดนสั่งย้าย เหตุปล่อยปละให้โรงงานที่ไม่มีใบอนุญาตเปิดกิจการ

ต่อมาช่วง ม.ค. 2554 พื้นที่ ต.บ้านเกาะ จ.พระนครศรีอยุธยา เกิดเหตุบ้านพักหลังหนึ่ง ลักลอบผลิตพลุ-ดอกไม้ไฟ เกิดเหตุระเบิด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บอีก 2 คน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในชุมชนเดิมที่เคยเกิดเหตุเมื่อปี 2547 ดูแล้วพอจะ “อุปมา” ได้หรือไม่ว่า สิ่งที่เคยสั่งการไว้ลอยหายไปกับกาลเวลา

เฉพาะที่ยกตัวอย่างจากบางข่าวคราวที่เกิดขึ้น ปรากฏผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิตนับร้อย ท่ามกลางข้อเท็จจริงที่ว่ายังไม่มีทีท่าปัญหาจะเปลี่ยนแปลง ผู้เขียนอยากฝากไปถึงหน่วยงานทั้งส่วนกลาง-ท้องถิ่น เพิ่มรูปธรรมต่อเนื่อง อย่าปล่อยวัวหายซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า เพราะที่ผ่านมา “วัว” หายไปหลายรอบ “คอก” ใหม่ก็ยังไม่แข็งแรงสักที.

อหิงสา