เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ร.ต.อ.ภคภณ ณ นคร รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเลขที่ 52 หมู่ 7 ต.สนามชัย อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา มีผู้ติดค้างอยูภายในบ้าน จึงประสานรถดับเพลิงจาก อบต.สนามชัย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ใกล้เคียง และเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ ไปควบคุมเพลิง  

ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูง ปลูกอยู่หลังเดียวติดกับแม่น้ำน้อย เพลิงกำลังลุกไหม้โหมอย่างรุนแรง ประกอบกับเป็นบ้านไม้และมีลมกระโชกแรง ทำให้เพลิงลุกโหมอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิง ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบ พบบ้านถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหลัง ตรวจสอบภายในบ้านบริเวณห้องนอนทางขึ้นบ้าน พบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย อายุ 76 ปี ถูกไฟไหม้ดำเป็นตอตะโก สามีของผู้เสียชีวิตซึ่งอยู่ในอาการโศกเศร้า นั่งร้องไห้ถามหาแต่ภรรยาว่าอยู่ที่ไหน อยู่บนบ้านหรือไม่ เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันปลอบโยน  

สามีผู้ตาย บอกว่า ตนเองอยู่บ้านหลังนี้พร้อมภรรยาและลูกสาว ช่วงเช้าลูกสาวออกไปทำงาน ส่วนตนได้พายเรือข้ามแม่น้ำไปธนาคาร เพื่อเบิกเงินผู้สูงอายุ มีคนโทรฯ ไปแจ้งว่าบ้านไฟไหม้ จึงรีบกลับมาบ้าน พบว่าไฟกำลังไหม้บ้านอยู่ ตกใจแทบช็อกเป็นห่วงภรรยา เพราะภรรยาผ่าตัดหัวเข่ามาหลายปีแล้ว เดินไม่สะดวก ส่วนใหญ่ภรรยาจะอยู่แต่บนบ้าน ส่วนตนเองจะอยู่ข้างล่าง ส่วนทรัพย์สินที่อยู่บนบ้านมีทองรูปพรรณจำนวนมาก น้ำหนักประมาณ 20 บาท ที่เก็บเอาไว้ในไห 

ด้าน นายจะเด็ด สาสาร อายุ 57 ปี กำนันตำบลสนามชัย อ.บางไทร เล่าว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีเพลิงไหม้ จึงได้รีบเดินทางมาพบว่าเพลิงลุกไหม้ไปแล้วครึ่งหลัง ชาวบ้านกำลังช่วยกันดับไฟ และมีเสียงร้องของความช่วยเหลืออยู่บนบ้าน ตนเองได้ขึ้นไปบนบ้าน เพื่อจะช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ภายในบ้าน แต่ระหว่างนั้นเพลิงลุกโหมอย่างรุนแรง ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ และเพลิงได้ลุกไหม้บ้านเสียหายทั้งหลัง จนมีผู้เสียชีวิต รู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถช่วยเหลือลูกบ้านของตนได้ โดยก่อนเกิดเหตุมีชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ได้ยินเสียงคล้ายกระแสไฟฟ้าช็อต จากนั้นเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว

พนักงานสอบสวนได้กันพื้นที่เกิดเหตุไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าในพื้นที่ เพราะมีทรัพย์สินของเจ้าของบ้านถูกไฟไหม้อยู่ในกองเพลิง และจะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานพระนครศรีอยุธยา เข้าตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ เพื่อดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป