เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ความคืบหน้ากรณีนางสาวดวงกมล วุฒิโรธง แม่ของนายธนกฤต วุฒิโรธง หรือ อ๊อฟ นักแสดงจากภาพยนตร์ 16 ห้าว 19 เดือดที่ประสบอุบัติเหตุกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงต้องนั่งรถกู้ภัยฯเดินทางไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจร่างกายถึงหน่วยตรวจเลือกทหารกองเกินอ.เมืองลำพูน ช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา หลังถูกหญิงสาวรายหนึ่งที่อยู่ในอาการมึนเมาขับรถยนต์มาชนท้ายรถมอเตอร์ไซด์ของอ๊อฟอย่างจัง ทำให้อ๊อฟหัวฟาดพื้นกะโหลกศีรษะร้าวอาการสาหัส กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงตั้งแต่บัดนั้นและจนถึงบัดนี้ยังคงรักษาตัวอยู่ในห้องปลอดเชื้ออยู่ที่บ้าน

ล่าสุดศาลจังหวัดลำพูน ได้นัดฟังคำพิพากษา คดีที่นางสาวดวงกมล วุฒิโรธง แม่ของน้องอ๊อฟ ได้ยื่นฟ้อง นางสาวลัคกี้ (นามสมมุติ) คู่กรณีขับรถชนจักรยานยนต์อ๊อฟ ซึ่งคู่กรณีได้รับสารภาพในคดีอาญาตั้งแต่การสืบพยานก่อนหน้านี้ ส่วนคดีแพ่งผู้เสียหายได้ยื่นฟ้องเรียกร้องค่าเสียหาย ประกอบด้วย ค่าขาดรายได้ซึ่งได้คำนวนคร่าวๆ จากการการแสดงของอ๊อฟ เฉลี่ยวันละ 3,500 บาท ตั้งแต่เกิดเหตุ 2 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นระหว่างรักษาตัว 2 ล้านบาท ค่าตกเป็นบุคคลไร้ความสามารถ 1 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการรักษาและดำรงชีพอนาคต 3 ล้านบาท

เปิดใจ ‘แม่อ็อฟ ธนกฤต’ ดูแลลูกติดเตียง ไม่รู้นานแค่ไหนจะได้ความยุติธรรม

ด้านนายเหมวัต อภิวัง ทนายความฝ่ายโจทย์ เปิดเผยหลังออกจากห้องพิจารณาคดีพร้อมกับแม่ของอ๊อฟ ว่า ในส่วนของคดีอาญาเมาแล้วขับและขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัส พิพากษาจำคุก 2 ปี ปรับเป็นเงิน 4 หมื่นบาท จำเลยสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 1 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท จำเลยทำผิดครั้งแรก ชดเชยค่าเสียหายให้โจทย์บางส่วนให้รอลงอาญา 2 ปี พักใช้ใบอนุญาตขับขี่รถ 2 ปี และให้คุมประพฤติและทำงานบริการสังคมครบ 2 ปี

ส่วนคดีแพ่งศาลตัดสินให้จำเลยชดใช้โจทย์รวมเป็นเงิน 4,172,962.62 บาท และให้จำเลยชดให้ค่าธรรมเนียมและค่าทนายความให้กับโจทย์ร่วมด้วย ส่วนการอุทธรณ์คดีต้องปรึกษากับลูกความก่อน หลังจากศาลพิพากษาคดีภายใน 30 วัน

แม่ของอ๊อฟ เปิดเผยว่า หลังลูกชายถูกรถชนตนและครอบครัวต้องทนทุกข์ทรมานมานานในการดูแลลูกชายที่ต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงสูญเสียรายได้จำนวนมาก หลังทราบคำพิพากษาจากนี้ต้องปรึกษากับทนายความว่าอุทธรณ์คดีหรือไม่ และขอดูรายละเอียดว่าค่าชดใช้จะเหมาะสมหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้ตนมีค่าใช้จ่ายในการดูแลลูกชายเป็นจำนวนมาก ทั้งค่ากายภาพบำบัด ค่ายานอกบัญชี ค่าอาหารผู้ป่วย และค่าอื่นๆ เฉลี่ยเดือนล่ะไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นบาท ทุกวันนี้ตนต้องดูแลลูกชายตลอด 24 ชั่วโมง ใช้เวลาว่างทำหมี่กรอบขายในโซเชี่ยล บางครั้งก็รับจ้างเย็บพรมเช็ดเท้าหารายได้นำเงินมาดูแลลูกชาย