เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมายอิสระ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า อัปเดตการเมือง (14 มิ.ย. 66)
1. พรรคก้าวไกล ถ้าไม่สามารถมีเสียงสนับสนุนถึง 376 ก็จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ จึงไม่มีความจำเป็นต้องใช้ไสยศาสตร์ทางกฎหมายให้ขยายความขัดแย้ง และเปิดทางให้ต่างชาติเข้าแทรกแซง
2. พ.ศ.นี้ ไม่มีใครคุมเสียง ส.ว. ได้ครบทั้ง 250 คน
– บัดนี้สถานการณ์คับขัน วิปของจริง คือ 6 ส.ว. โดยตำแหน่ง และ ส.ว. ในสายข้าราชการรวม 66 คน แสดงท่าทีไม่โหวตให้กับแคนดิเดตคนใด
– ส.ว. ที่มาจากการเลือกตั้ง 50 คน ก็จะโหวตให้พรรคการเมือง ซึ่งส่วนใหญ่จะโหวตให้แก่เพื่อไทย หรือ ภท.
– พปชร. ก็วางตัวเป็นขั้วกลาง
จึงเป็นการปิดประตูรัฐบาลเสียงข้างน้อย!!
3. ถ้าก้าวไกลไม่ได้รับความเห็นชอบเป็นนายกฯ เพื่อไทยก็มีความชอบธรรมที่จะจัดตั้งรัฐบาล
สภาพจึงบังคับให้ต้องเสนอ “ลุงป้อม” เป็นนายกฯ ตามที่คาดการณ์ไว้!!!
เพื่อเดินหน้า ยุทธศาสตร์ก้าวข้ามความขัดแย้ง เริ่มต้นประเทศไทย
โดยให้พรรคร่วมต่างๆ ร่วมกันวางรัฐมนตรีที่เหมาะสม เพื่อปฏิรูปและแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ให้ก้าวรุดหน้าไป
4. ตำแหน่งรัฐมนตรี 35 ตำแหน่ง ผู้ช่วยรัฐมนตรี อีก 40-45 ตำแหน่ง ที่ปรึกษานายกรองนายกฯ และรัฐมนตรี อีก 50 ตำแหน่ง เลขาฯ และรองเลขาฯ นายกรัฐมนตรี และเลขานุการรัฐมนตรี อีก 25 ตำแหน่ง ผู้แทนทางการค้า ที่มีอำนาจหน้าที่ ทางการค้าแทนนายกรัฐมนตรีอีก 5 ตำแหน่ง ประธานกรรมาธิการ ที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ อีกหลายสิบตำแหน่ง มากพอที่จะจัดสรรตำแหน่งให้แก่พรรคร่วมรัฐบาล ได้โดยไม่ติดขัด
แต่ทุกตำแหน่งในครั้งนี้ จะไม่ใช่ตำแหน่งเกียรติยศ หรือพวกพ้อง แต่จะเป็นตำแหน่งสำหรับคนดีมีฝีมือ ที่จะมาแก้ไขปัญหาและเดินหน้าประเทศไทย
ร่าง “กฎหมายเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ” ที่จะปลดชนัก ที่ปักหลัง ผู้นำมวลชนและประชาชนที่เสียสละให้แก่บ้านเมือง ก็น่าจะเสร็จแล้ว!!!
ก้าวข้ามความขัดแย้ง เดินหน้าประเทศไทย เพื่อความปลอดภัย และความร่มเย็นเป็นสุขของไทยทั้งผอง
ก้าวสู่ยุคศิวิไลซ์ ภายใต้ร่มธงมหาราชแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว****
#รัฐบาล66
นายไพศาล ยังโพสต์อีกข้อความว่า…แคนดิเดตนายกฯ ไม่จำต้องเป็น ส.ส.
ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ ส.ส. คนใดหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.
ถ้าผู้นั้นเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ก็สามารถเสนอชื่อ ต่อที่ประชุมทั้ง 2 สภาได้ เพราะเป็นคนละฐานะคนละเรื่องกัน