เมื่อวันที่ 8 ก.ค.2566 เจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัย อบต.ผักไหม จ.ศรีสะเกษ รับแจ้งเหตุฟ้าผ่าคนตาย ที่บริเวณกลางทุ่งนา หมู่ 4 ต.ผักไหม อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ จึงรีบไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุบริเวณคันนา พบศพนายสูรย์ ตรีแก้ว อายุ 64 ปี ชาว อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ สภาพศพนอนหงายสวมแว่นตา อยู่ริมคันนา บริเวณท้ายทอยมีรอยไหม้เกรียม เสื้อผ้า หมวกขาดลุ่ย คล้ายถูกไฟไหม้ บริเวณโดยรอบพบเครื่องสูบน้ำ กระติกน้ำ และมีดบังตอวางอยู่ 1 เล่ม โดยมี นางดาวเรือง ตรีแก้ว อายุ 63 ปี ภรรยานั่งร้องไห้ด้วยความเสียใจอยู่ข้างศพ เจ้าหน้าที่จึงนำศพออกจากพื้นที่ ประสานตำรวจร่วมตรวจสอบชันสูตร

สอบถามนางดาวเรือง เบื้องต้นเล่าว่า สามีเป็นสมาชิกสภา อบต.กล้วยกว้าง สมัยที่ 2 ก่อนเกิดเหตุตนและสามี นำเครื่องสูบน้ำไปสูบน้ำเข้านา เพื่อดำนาปลูกข้าว ขณะนั้นท้องฟ้ามืดครึ้มแต่ฝนยังไม่ตกลง เลยบอกกับสามีว่า จะไปถอนกล้าเตรียมปักดำ ขณะเดินห่างออกไปได้ประมาณ 10 เมตร เกิดเสียงฟ้าร้อง 1 ครั้ง จากนั้นไม่นานได้ยินเสียงฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา 1 ครั้ง ซึ่งตอนนั้นไม่รู้ว่าฟ้าผ่าอะไร

นางดาวเรือง เล่าอีกว่า รับรู้แค่ว่าร่างตนกระเด็นคล้ายมีแรงผลักจนล้มลงกับพื้น เจ็บจี๊ดถึงขั้วหัวใจแล้วหมดสติไปประมาณ 15-30 นาที พอรู้สึกตัวก็คิดแต่ในใจว่าโดนฟ้าผ่าจนหมดสติล้มลงไป ทำไมสามีไม่มาช่วย จึงพยายามลุกขึ้นแล้วเดินกลับไปหาสามี พบว่าสามีถูกฟ้าผ่าจนเสียชีวิตไปแล้ว จึงร้องตะโกนขอให้ชาวบ้านช่วย แต่ขณะนั้นไม่มีใครอยู่ในทุ่งนาเลย จึงขี่รถจักยานยนต์กลับเข้าหมู่บ้านบอกให้คนช่วยและแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย ตำรวจ มาตรวจสอบดังกล่าว

อย่างไรก็ตามหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยทับทัน พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ห้วยทับทัน ได้ร่วมกับตรวจชันสูตรพลิกศพแล้ว ญาติไม่ได้ติดใจสาเหตุของการเสียชีวิต จึงมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป.